"สุดท้ายแล้วสุดท้ายแล้วจริงๆ ค่ะ"
" งั้นก็เข้าร่มก่อน ร้อนไหม" ร่างสูงยืนบังแดดให้เธอตั้งแต่มา จนกระทั่งเดินเข้าร่มใต้ต้นไม้...
"เฮียหวังว่าผิงควรทำยังไงต่อ.." เมื่อดีขึ้นเธอก็ถามเขา เฮียหวังเป็นที่ปรึกษาด้านความรักที่ดี
"อ้าว แล้วทำไมมาถามเฮีย แต่ถ้าเป็นเฮีย เฮียจะกลับ.. " มือใหญ่แกว่งชิงช้าที่เธอนั่งไปมา...ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
"ก็เฮียหวังรู้จักเฮียภูดี เป็นพี่น้องกัน น่าจะรู้" เธอนั่ง ิหย่อนขาอยู่บนชิงช้า ไอลมทะเลพัดแรงตีหน้าเธอจนผมปลิว...
"พี่น้อง ก็ใช่ว่าจะรู้ใจเฮียภู เฮียคิดว่าหมวยควรถอดใจ ปล่อยเฮียภูไป" เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าพี่ชายเขาคงมีใจให้เธอบ้างไม่งั้นก็คงพูดตรงๆ แล้วก็คงไม่ยอมตกลงหมั้นกับเธอ...แต่ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พี่เขาเปลี่ยนไป ถึงกล้าทำร้ายหัวใจเธอขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเฮียเจอผู้หญิงที่เฮียรักจริงๆ แล้ว จึงกล้าที่จะตัดสัมพันธ์ไปมีคนอื่นแบบโจ่งแจ้ง..ไม่กลัวผิงจะเสียใจ
"ก็ผิงบอกไปแล้วว่ารอบสุดท้ายที่ผิงจะตาม" ใบหน้าเล็กบูดบึ้ง..จะลงจากชิงช้าแต่ขาเธอสั้น สองมือใหญ่จับที่เอวบางเขาออกแรงเล็กน้อยตัวเธอก็ปลิวลงมา...
"ผิงขอไปพักก่อนนะ" ร่างบางเดินกลับที่พัก
ส่วนเฮียหวังนั้นก็เป็นพี่ชายที่แสนดีเดินไปนั่งร่วมกับเฮียภูและเลขาสาวที่โต๊ะ...เขาไม่จำเป็นต้องหลบอยากรู้เหมือนกันว่าถึงขั้นไหนกันแล้ว
"ผมนั่งด้วยนะครับ"
"ได้สิ พี่กำลังคุยกับพิมพ์เรื่องหาคนมาแทนคุณปอ นายคิดว่าใครดี แต่ก็ไม่รู้คิวจะว่างไหม" วิทยากรชื่อดังที่จะมาพูดในวันพรุ่งนี้ เกิดอุบัติเหตุมาไม่ได้เขาเลยต้องหาคนใหม่
"ถ้าด่วนขนาดนี้คงไม่มีใครว่าง อืม.. ผมคิดว่าพี่ปราชญ์เป็นไง"
"เออวะ พี่ลืมไอ้ปราชญ์ไปได้ยังไง คิดหาคนอื่นอยู่ตั้งนาน" ปราชญ์เป็นเพื่อนสนิทเฮียภู..แต่ระยะหลังต่างคนก็ต่างยุ่งๆ นานครั้งจะมาเจอกัน..
"พิมพ์ งั้นผมตกลงเลือกเพื่อนผมนะ เดี๋ยวผมจะจัดการให้เอง"
" ค่ะ" เลขาสาวก้มลงจดข้อมูล...
ทุกอย่างอยู่ในสายตาเฮียหวัง เขาได้แต่คิดในใจว่า งานนี้หมวยเล็กเจองานหนักแล้ว....
............................
ช่วงเย็นเหอผิงไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ เธอเพิ่งจะตื่นเตียงนอนนุ่มหลับสบายมากเลยเผลอหลับยาว เมื่อตื่นมาหิวก็สั่งอาหารในโรงแรมมากินในห้อง ขี้เกียจออกไปมันมืดมากแล้ว ที่พักของเธอห่างจากตัวโรงแรมพอสมควร.. คนขี้เกียจอย่างผิงก็นอนสิคะ
ช่วงเวลาสามทุ่มเธอก็ยังไม่รู้สึกง่วงเพราะนอนเยอะมากจึงอยากหาอะไรสนุกสดชื่นทำ เธอจึงเดินเข้าไปเลือกชุดว่ายน้ำที่เตรียมมา ออกมาใส่ กว่าจะดึงชุดว่ายน้ำชิ้นเล็กให้มันเข้าที่ได้ก็ใช้เวลาพอสมควร.. ร่างบางยืนอวดหุ่นอยู่ตรงกระจกหมุนซ้ายหมุนขวา เธอรู้สึกชอบตัวเองทุกครั้งที่ใส่ชุดว่ายน้ำ มันดูสวยเซ็กซี่จนเธอเองก็ยังหลงตัวเองมาก...แต่นานครั้งเธอจะได้ใส่ออกไปข้างนอกหรือแทบจะไม่มีโอกาสเลยส่วนมากจะใส่ให้ตัวเองดูคนเดียว แล้วก็มโนว่านั่งอยู่ริมทะเล...
"สวยปังมาก แต่ทำไม? ..ช่างเถอะ เฮียไม่ชอบแล้วไง คนอื่นอาจจะชอบก็ได้" เธอคิดว่าเธอสวยมากนะหรือคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป ผิวเธอขาวออร่ามากไม่ได้ขาวซีดแต่ขาวอมชมพูใสๆ แบบฉบับที่ดูแลตัวเองอย่างดี...
เหอผิงเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมเพราะอากาศในห้องเย็นมากแล้วก็เดินเปิดประตูออกไปที่สระว่ายน้ำส่วนตัวไฟที่สระสลัวๆ ไม่สว่างมากกำลังได้บรรยากาศสองมือเล็กค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมออกแต่ก็หันมองซ้ายขวาถึงจะส่วนตัวยังไงก็รู้สึกระแวงนิดๆ เหมือนมีคนจ้องมองเธออยู่.... หญิงร่างบางผิวขาวหุ่นสมส่วนสวมชุดว่ายน้ำสีชมพูหวานเดินลงสระ ผมยาวถูกรวบขึ้นมัดไว้หลวมๆ บรรยากาศไฟสลัวๆ ยิ่งทำให้เธอดูเซ็กซี่ชวนมอง... เธอว่ายน้ำอยู่กลางสระคนเดียว ที่นี่ค่อนข้างเงียบมีเพียงเสียงธรรมชาติชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย...
ว่ายน้ำจนพอใจร่างบางก็ขึ้นมาจากสระเนื้อตัวเปียกชุ่ม.. เธอเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมแล้วนั่งลงจิบไวน์และเพียงไม่นานก็เดินเข้าห้องไปเพราะลมหนาวที่พัดเข้ามา...ทำให้กายเธอหนาวสั่นสะท้าน
.....................................
บ้านพักหลังติดกันอาบน้ำเสร็จกำลังจะนอน เขาก็หันไปเห็นอะไรแว๊บๆ ที่สระน้ำ ไม่ไกลจากห้องที่เขาพักอยู่ นึกแปลกใจที่มีแขกเข้ามาพัก ทั้งที่เขาจองเหมาโรงแรมทั้งหมดให้กับการจัดอบรมสัมมนาบริษัท หรือว่าเขาจะตาฝาด ตรงมุมสระค่อนข้างมืดเขาเองก็มองไม่ชัดหรืออาจจะเป็นลูกค้าที่ยังหลงเหลืออยู่ ไม่ได้คิดอะไรแต่ก็มองจนร่างบางเดินลับหายไป..ก็เป็นปกติของผู้ชายที่ชอบมองของสวยๆ ถึงเขาจะมีคนที่อยู่ในใจแล้ว แต่ก็แค่มอง คนสำคัญก็ยังคงเหมือนเดิม
เช้าวันที่สอง เหอผิงยังคงทำตัวกลมกลืนกับพนักงานคนอื่นๆไม่ได้เข้าไปแสดงตัว เธอปิดหน้าปิดตาไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะไม่งั้นทุกคนจะวงแตกเอาเธอไปพูดซุบซิบนินทาจนเฮียภูรู้ ทำไมเธอจะดูไม่ออกเป้าหมายของเธอในวันนี้คือ หาโอกาสเจอกับผู้หญิงคนนั้น เลขาเฮียภู เธออยากจะคุยกับผู้หญิงคนนั้นให้รู้กันไปเลย...
หาโอกาสทั้งวันก็ยังไม่มีผู้หญิงคนนั้นตัวติดกับเฮียภูเป็นตังเม นึกแล้วก็หมั่นไส้...
จนสุดท้ายช่วงเย็นมีการจัดปาร์ตี้ดื่มฉลองสนุกๆที่ริมหาดเธอเป็นจังหวะที่เฮียภูเดินออกไปคุยกับใครคนหนึ่งหน้าคุ้นๆ...อ้อ.. พี่ปราชญ์เธอจำได้พี่ปราชญ์เป็นเพื่อนเฮียภูมาด้วยหรอเนี่ยดีๆ ดีเลยสองคนนั้นจะได้แยกออกจากกันเสียที
มุมมืดโซนปิ้งย่าง.. ร่างบางยืนอยู่คนเดียวเธอยังเป็นพนักงานใหม่ไม่ค่อยสนิทกับใครคนที่เธอพูดคุยด้วยมากที่สุดก็มีเพียงคุณภู เธอจึงไม่รู้ว่าจะไปยืนอยู่กับใคร ตอนนี้เขากำลังคุยอยู่กับเพื่อน
"นี่เธอ..ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วย " เหอผิงเดินไปพูดกระซิบด้านหลังยังคงปิดหน้า
"คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ" พิมรดาเข้าใจว่าเป็นพนักงานบริษัทอยากจะคุยกับเธอ เมื่อเธอเปิดหน้าออกกลับเป็นผู้หญิงคนนั้นคู่หมั้นคุณภู เธอตกใจมาก หัวใจสั่นรัว ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่ามาในฐานะคู่หมั้นความปวดร้าวเสียใจแล่นขึ้นมากลางใจอีกครั้ง
"ตามฉันมา" เหอผิงเดินนำออกไปยังชายหาดมืดๆไร้ผู้คน...
ร่างบางเดินตามไปด้วยขาอันสั่นเทา
"คุณฉันกลัว"
"ทำไมกลัวว่าฉันจะฆ่าเธอหรอไง " เหอผิงแว๊ดใส่เพราะหมั่นไส้ความขี้กลัวบอบบางของผู้หญิงคนนี้
"ป.เปล่าค่ะ ตรงนี้ค่อนข้างมืด" เธอหันมองซ้ายขวากลัวว่าจะมีคนอื่นนอกจากผู้หญิงตรงหน้าเธอไม่ไว้ใจ
"มืดแล้วยังไง แค่นี้ทำเป็นกลัวแล้วทีเธอแย่งคู่หมั้นคนอื่นเธอไม่กลัว เธอก็รู้ว่าเฮียภูเป็นของฉัน แต่ก็ยังหน้าด้านมาแย่งเฮียภูไปจากฉัน" เหอผิงพูดด้วยความอัดอั้นขุ่นเคืองใจ หากไม่มีผู้หญิงคนนี้เฮียก็จะรักเธอ อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบได้แต่งงานกับเฮียภูความฝันเธอต้องมาพังลงเพราะผู้หญิงคนนี้
" ฮือๆ.. ฉัน ขอโทษ ฮือๆ ถ้าฉันรู้ก่อนนั้นฉันจะไม่ทำ" พิมรดาเองก็เสียใจแต่ชายที่เธอรักบอกเธอว่าจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นเขาจะกลับไปจัดการเรื่องทั้งหมดให้เธอสบายใจแต่ในใจลึกๆเธอก็กลัวว่าจะมีวันนี้ ซึ่งก็มีจริงๆ
"แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วเธอควรหยุด เราเป็นผู้หญิงเหมือนกันฉันรู้ว่าเธอดูออกว่าฉันรักเฮียภูมาก ฉันรักเขามาตั้งแต่ฉันยังเด็กฉันรักเขามาก เธอยังจะใจร้ายแย่งเขาไปจากฉันอีกหรอ ถือว่าครั้งนี้ฉันขอได้ไหม ฉันไม่เคยขอร้องใครนี่เป็นครั้งแรก ฉันขอให้เธอเลิกยุ่งกับเฮียภูได้ไหม" เหอผิงเองก็ยืนตัวสั่นร้องไห้ออกมาเช่นกัน....
" ฮือๆ.. ฉันขอโทษ ฉันเองก็รักเขาและฉันก็ไม่อยากทำร้ายคุณ คุณมาก่อนฉันมาทีหลังฉันควรถอยไปฉันรู้ ฮือๆ แต่ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม เพราะฉันเองก็ไม่มีที่ไป ฉันไม่รู้จะหนีเขาไปไหน แต่ฉันจะเลิกกับเขาแน่นอน" ถึงเธอจะถอยแต่เธอเชื่อว่ายังไงคุณภูก็ต้องตามเธอไปที่บ้านอยู่ดี เธอไม่รู้จะหนีไปทางไหนเธอมีน้องชายอีกสองคนที่ต้องเลี้ยงดู
" ชีวิตเธอมันน้ำเน่าฉันเกลียดเธอ ทำไมเธอต้องทำให้คนอื่นเขาสงสารเธอด้วย " ขนาดคนที่มีจิตใจแข็งกระด้างอย่างเธอ เธอยังรู้สึกสงสารชีวิตผู้หญิงคนนี้...
"ฮือๆ ฉันขอโทษ"
"เอะอะร้องไห้ เอะอะขอโทษ ฉันเกลียดเธอ" เหอผิงเดินปาดน้ำตาหันหลังกลับไป.. คิดว่านางร้ายอย่างเธอไม่เจ็บไม่มีหัวใจหรอ เธอเองก็เจ็บ เจ็บที่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีและรักเฮียภูเขาสองคนรักกัน เจ็บที่เธอไม่อาจชนะผู้หญิงคนนั้นได้ คงถึงเวลาที่เธอต้องปล่อยเฮียภูไปจริงๆ....
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.