ตอนที่ 9 ข่าวลือ

ลับจ้างรัก 3000 words 2025-02-21 03:00:00

ตอนที่ 9 ข่าวลือ


“แก๊ป”

ผู้จัดการร้านพยักหน้าพร้อมกับกวักมือเรียกผมให้ลงไปหา นั่นหมายความว่าคืนนี้ผมได้ลูกค้าแล้ว ซึ่งดูจะเร็วกว่าทุกๆ คืน ที่ผมต้องยืนจนเมื่อยตาตุ่มกว่าจะมีใครเรียกรับบริการจากผม

“ครับ” ผมเดินลงมาจากเวทีแล้วส่งยิ้มให้กับลูกค้าของผมซึ่งท่าทางดูเหมือนหนุ่มออฟฟิศสามคน

“ลูกค้าเหมาห้าร้อยดริ๊งนะ”

“ฮะ! ห้าร้อยดริ๊ง”

ผมหันขวับกลับไปมองหน้าลูกค้าทั้งสามคนอีกครั้งเหมือนไม่มั่นใจว่านี่เป็นการล้อเล่นหรือเปล่าเพราะเรทราคาดริ๊งของที่ร้านจะอยู่ที่ห้าร้อยบาทต่อหนึ่งดริ๊ง แต่ส่วนแบ่งของผมหลังหักค่าหัวแล้วผมจะได้ส่วนแบ่งที่สามร้อยห้าสิบบาทและจะต้องไปคอยนั่งบริการชงเหล้าให้แขกประมาณสามสิบนาทีต่อดริ๊งหากครบเวลาลูกค้าพอใจอยากจ่ายเพิ่มก็จะเรียกผู้จัดการร้านมาเพื่อซื้อดริ๊งต่อ แต่ถ้าคนไหนบริการไม่ดีลูกค้าก็อาจจะเปลี่ยนเรียกคนอื่นมาแทน

“ใช่เหมาห้าร้อยดริ๊ง” ผู้จัดการร้านหนุ่มหล่อส่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ผม

หากกดเครื่องคิดเลขคำนวณห้าร้อยดริ๊งจริงๆ มันเป็นจำนวนเงินสูงถึงสองแสนห้าหมื่นบาทที่ลูกค้าต้องจ่ายถ้าผมคำนวณไม่ผิด แต่เมื่อเห็นว่าพี่ผู้จัดการร้านพยักหน้ายิ้มๆ เหมือนกำลังดีใจแสดงว่าห้าร้อยดริ๊งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผมจึงได้แต่ พยักหน้ารับแล้วเดินนำลูกค้าสามคนไปยังโซนนั่งซึ่งแบ่งไว้สำหรับลูกค้าที่เหมาดริ๊งทั้งคืนหรือจะเรียกว่ามันเป็นโซนสำหรับลูกค้าวีไอพีก็ได้เพราะคืนนี้ผมคงไม่ได้ลุกไปไหนอีกจนกว่าร้อนจะปิด

“น้องแก๊ป รับแค่งานดริ๊งอย่างเดียวเหรอครับ” หนึ่งในลูกค้าเอ่ยถามผมหลังจากที่เราทำความรู้จักกันเบื้องต้นแล้ว

“ดีใจจังที่วันนี้พวกพี่มาทันได้เหมาดริ๊งน้องแก๊ป”

“มาทัน...ทันอะไรเหรอครับ” ผมหันไปถามลูกค้าอีกคนที่นั่งอมยิ้มมองผมตลอดเวลา

“ก็พวกพี่ได้ข่าวว่าที่นี่น้องแก๊ปเป็นเด็กดริ๊งฮอตที่สุด พวกพี่อยากรู้จัก อยากเจอตัวจริงก็เลยมารอที่ร้านนี่สี่ห้าวันแล้ว เห็นมีคนบอกว่าน้องแก๊ปรับงานพิเศษข้างนอกด้วยจริงหรือเปล่าครับ”

ผมนั่งงงตอบไม่ถูกเพราะมันไม่มีอะไรเป็นความจริงเลยผมเป็นเด็กดริ๊งหางแถวติดจะเป็นเด็กเหลือเพราะไม่มีใครเลือกออกบ่อย แล้วที่ผมหายไปหลายวันเพราะผมถูกกระทืบจนเจ็บหนักต่างหากไม่ได้มีใครที่ไหนเหมาไปรับงานอะไรทั้งนั้น

“ผมเนี่ยเหรอครับ...ฮอตที่สุด” ผมยกนิ้วชี้เข้าหาตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ

“ใช่...แล้วคืนนี้น้องแก๊ปอยากออกไปรับงานพิเศษมั้ยครับ” ลูกค้าคนเดิมส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ผมอย่างเปิดเผย

“เอ่อ....ไม่ครับ” ผมส่ายหัวปฏิเสธออกไปพร้อมกับคำถามในหัวว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ขอโทษครับ ขอแจมดริ๊งด้วยได้หรือเปล่า” ลูกค้าอีกสองคนเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ โต๊ะแล้วพูดคุยตกลงเพื่อขอแชร์โต๊ะรวมไปถึงแจมดริ๊งกับลูกค้าสามคนแรกของผม

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนักและหากมันจะมีกรณีการแชร์โต๊ะหรือแจมดริ๊งก็เป็นกรณีของพวกเด็กพริตตี้ตัวท็อปของบาร์ ซึ่งมักมีลูกค้าอยากได้ตัวไปนั่งด้วย แต่ถ้าหากมาช้ามาไม่ทัน ลูกค้าที่มาทีหลัง สามารถตกลงแจมโต๊ะกันได้ก็จะได้นั่งร่วมโต๊ะกันโดยซื้อดริ๊งที่ราคาเท่ากัน ส่วนเด็กดริ๊งก็ต้องบริหารเสน่ห์แบ่งปันการดูแลให้ทั่วทุกคน ถึงแม้ว่าผมจะแปลกใจอยู่บ้างแต่ผมกลับรู้สึกดีเพราะอย่างน้อยคืนนี้ผมได้เงินค่าดริ๊งตั้งสามแสนกว่าบาทซึ่งนับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยนั่งดริ๊งมา

ฟอดดดด จมูกของลูกค้าคนหนึ่งกดประทับลงมาบนแก้มผมโดยไม่ทันตั้งตัว จากที่เหมาไว้ห้าร้อยดริ๊งนี่เพิ่งจะผ่านไปแค่สามชั่วโมงยังไม่ทันถึงครึ่งทางลูกค้าของผมก็เริ่มออกอาการเมาแอ๋กันแล้ว แถมยังเริ่มกลายพันธุ์จากคนธรรมดาไปเป็นปลาหมึกยักษ์ที่มือแขนไม่อยู่นิ่งจับนั่น คว้านี่ไม่หยุดจนผมไม่รู้จะปัดมือไหนก่อนดีเพราะมันนัวเนียพันกันยุ่งไปหมด

“แก้มนิ่มจังครับ”

“เอ่อ พี่ครับ” ผมผลักมือของใครสักคนออกไปจากเป้ากางเกงของผม แถมยังต้องหมุนคอหลบทั้งปาก หลบทั้งจมูกที่ระดมพรมกอด พรมจูบ ใส่จนผมแทบจมลงไปกับโซฟาตัวใหญ่ของร้าน

“น้องแก๊ปพี่ขอจูบได้หรือเปล่าครับ”

“อื้อ...” ผมสะดุ้งเฮือกตัวชามือชาเมื่อปากของใครสักคนประกบทับลงมาบนปากผม และโดยไม่ทันตั้งสติคิดให้ดี ผมสะบัดมือผลักอกของคนที่โน้มตัวกดผมนอนลงไปหนุนตักอีกคน

ผมยกขาถีบไปข้างหน้าไม่รู้ว่าโดนใครได้ยินแต่เสียงสบถด่าเหมือนไม่พอใจแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาการ์ดของร้านคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินตรงมาทางผมพอดี

“คุณลูกค้าจะลวนลามเด็กดริ๊งแบบนี้ไม่ได้นะครับ” การ์ดตัวโตอีกสองคนเดินเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการร้านเพื่อเจรจากับลูกค้าซึ่งอยู่ในสภาพเมาจนเกือบทรงตัวกันไม่อยู่

“อะไรกันเหมาหมดเป็นแสนกอดนิด กอดหน่อยไม่ได้เหรอ”

“ได้เท่าที่เด็กสมัครใจนะครับคุณลูกค้า”

“อะไรวะ...”

ลูกค้าของผมเริ่มโวยวายเสียงดังจนเรียกความสนใจของลูกค้าโต๊ะอื่นให้หันมามอง แต่ไม่นานคุณโอลิเวอร์ก็เข้ามาพูดคุยและตกลงกับลูกค้าจนได้ ผมไม่รู้ว่าคุณโอลิเวอร์เจรจาอะไรแต่ท้ายที่สุดลูกค้าโต๊ะนั้นก็เดินออกจากร้านไป

ผมไม่ได้รับแขกต่อแต่กลับเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในห้องแต่งตัว ภายในห้องน้ำพนักงานเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงพูดคุยหยอกล้อกัน โดยมีชื่อผมติดอยู่ในประโยคเหล่านั้นด้วย ผมก้าวถอยหลังเข้าไปยืนหลบอยู่หลังประตูห้องน้ำเพราะไม่อยากเจอหน้าใครแต่ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องราวไม่คาดฝัน

“พวกมึงรู้ข่าวชั้นสองหรือเปล่าวะ”

“อ๋อ...เรื่องที่ไอ้แก๊ปอยู่ๆ ก็ขึ้นไปฮอตตีคู่กับพี่แม็กซ์อ่ะเหรอ”

“เออนั่นแหละ เห็นว่าราคาสูงด้วยนะมึง เมื่อกี้ไอ้พวกเด็กดริ๊งหน้าร้านมันมาเล่าให้ฟังว่าข้างหน้าถึงขั้นต่อยกันเลยนะเว้ย” ผมยืนเงี่ยหูฟังข่าวลือผิดเพี้ยนเหล่านั้นแล้วสับสนไปหมด

“โดนเหมาห้าร้อยดริ๊งสองกรุ๊ปอ่ะมึงรับเละครึ่งล้าน นี่แค่วันเดียวเองนะเว้ยแล้วไอ้ที่หายไปกับคุณสเตฟานเป็นอาทิตย์ไม่รู้ได้ไปเท่าไหร่”

“ก็คงจะเด็ดแหละมึง ไม่อย่างนั้นคุณสเตฟานจะถึงขั้นเหมาข้ามวันข้ามคืนขนาดนี้เหรอวะ”

“แล้วคืนนี้ตกลงใครได้ไปวะ” เสียงรุ่นพี่อีกคนพูดกลั้วหัวเราะ

“มีคนเห็นขึ้นรถไปกับลูกค้าที่เหมาดริ๊งนั่นแหละ ป่านนี้โดนอัดสามไปแล้วมั้ง”

เสียงหัวเราะชอบใจของรุ่นพี่สี่ห้าคนด้านนอกทำให้ผมชาไปหมดทั้งตัว ข่าวลือพวกนี้มันมาได้ยังไงกันเงินครึ่งล้านบ้าบอ คืนนี้ถึงจะถูกเหมาดริ๊งแต่ผมก็ต้องถูกทางร้านหักตามกฎ อีกอย่างผมยังไม่ได้จับเงินลูกค้าแม้แต่บาทเดียว แล้วที่สำคัญผมยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนกับใครทั้งนั้น

ผมรอจนคนพวกนั้นออกไปหมดแล้วถึงได้เดินออกมาจากหลังประตูด้วยความสับสน หรือว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของพี่แม็กซ์ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงพี่แม็กซ์จะได้อะไรล่ะ?

ผมตัดสินใจเดินออกมาจากร้านเพื่อกลับหอพักแล้วเลือกเลี่ยงการเดินผ่านไปยังหน้าร้านเพราะไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น ไม่อยากเดินไปให้ใครเห็นเลยแม้แต่เงา

“น้องแก๊ป” เสียงเรียกชื่อผมดึงให้ขาที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าชะงักลง

“คุณลูกค้า...” ผมหันมาเจอกับลูกค้าสามคนเมื่อช่วงค่ำซึ่งผมเข้าใจว่าทั้งสามหนุ่มน่าจะกลับไปแล้ว

“จะกลับแล้วเหรอ ไหนบอกว่ามีแฟนมารับไง” หนุ่มออฟฟิศหน้าตาดีเจ้าของริมฝีปากที่ทาบจูบผมในร้านร้องทักขึ้นพร้อมกับเดินตัวเอียงเข้ามาใกล้

“เอ่อ...พอดีว่าผม”

“ถ้าวันนี้แฟนไม่มารับ ไปกับพวกพี่มั้ย รับรองว่าจะส่งให้ถึงสวรรค์เลย”

“ไม่ครับ ขอบคุณครับ” ผมชักเท้าเดินห่างออกมาอย่างไม่วางใจและรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที

“อะไรกันน้องแก๊ป จะเล่นตัวทำไมเดี๋ยวพี่จ่ายพิเศษให้ก็ได้นะ” ลูกค้าอีกสองคนเดินอ้อมประกบชิดมาทางด้านข้างบีบต้อนให้ผมเดินถอยไปจนชิดติดกับกำแพง

“คุณลูกค้าจะทำอะไรครับ”

“ก็แค่อยากชวนให้ไปสนุกด้วยกัน”

“ไม่ครับ ผมไม่ใช่เด็กขายนะ ถ้าคุณลูกค้าอยากซื้อขึ้นไปบนห้องแดงสิหรือ...ลองถามผู้จัดการดูก็ได้” ผมพยายามปัดมือที่ยื่นใกล้เข้ามาออกไปให้ห่างตัว

“ก็พี่อยากได้น้องแก๊ปอ่ะ นะครับ ไปกับพวกพี่เถอะ”

“แต่ผมไม่ขาย”

ผมหันหลังเพื่อต้องการวิ่งหนีออกไปถนนด้านนอก แต่ลูกค้าสองคนที่เหลือกางท่อนแขนแล้วฟาดลงมากลางตัวของผมก่อนจะโอบกอดแล้วเริ่มยื่นใบหน้าเข้ามาทั้งกอดทั้งจูบพัลวันจนผมไม่รู้จะเอาหน้า เอาปากหลบไปทางไหนดี

“ปล่อยผมนะ” ผมกระโดดดิ้นพยายามสะบัดให้ตัวเองหลุดออกมาจากวงแขนของคนเมา

“อะไรกันพี่จ่ายไปเป็นแสนขอแค่นี้ไม่ได้เหรอ”

“ไม่ ปล่อยผมนะ” ผมยกฝ่าเท้ากระทืบลงไปบนหลังเท้าของใครสักคนหนึ่งในสาม

“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยหรือว่าอยากได้เงินเพิ่ม”

“ไม่เอา ผมไม่อยากได้...อื้อ”

ริมฝีปากหนากดทับลงมาแล้วบดจูบใส่ผมจนหายใจแทบไม่ทัน แขนสองข้างถูกยึดล็อกเอาไว้ทั้งสองข้างด้วยผู้ชายตัวโตสองคน รสชาติขมเฝื่อนๆ จากปลายลิ้นอุ่นชื้นสอดดุนดันลึกเข้ามาในโพรงปากแล้วพยายามควานซุกไปทั่ว ตามเนื้อตัวของผมฝ่ามือหนาลูบไล้บีบคลำไปทั่วตัวโดยที่ผมไม่สามารถปัดป้องอะไรได้เลย

“เฮ้ย พวกมึงทำอะไรน่ะ” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทำให้ลิ้นที่อยู่ในปากผมต้องถอยออกไป

“เสือกอะไรด้วย” เจ้าของลิ้นหันกลับไปตอบด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด

หลังจากนั้นผมเห็นฉากตะลุมบอนของขี้เมาสามคนถูกผู้ชายตัวโตคนหนึ่งอัดใส่จนแทบไม่เหลือสภาพ เพียงแค่ไม่กี่นาทีลูกค้าขี้เมาของผมก็ลงไปนอนกองตัวงออยู่บนพื้นถนนแล้ว

“น้องแก๊ปเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้ชายคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาพร้อมกับมองสำรวจผมไปทั่วตัว

“เอ่อ...ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร ขอบคุณนะครับ” ผมยังยืนตะลึงกับฉากต่อสู้ที่เหมือนหนังแอ็กชั่นเมื่อครู่และยังตกใจไม่หาย

“ไม่เป็นไรครับน้องแก๊ป” ผู้ชายคนนั้นยืนส่งยิ้มมาให้พร้อมกับเรียกชื่อผมถูกจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองดูว่าเขาเคยเป็นหนึ่งในลูกค้าของผมหรือเปล่า แต่ผมไม่เคยมีลูกค้าหน้าตาดีขนาดนี้นึกเท่าไหร่ผมก็นึกไม่ออกจริงๆ

“ทำไมถึงรู้จักชื่อผมล่ะ”

“จะไม่รู้จักได้ยังไง ก็พี่แอบมองแก๊ปตลอดทั้งคืนเลยนะ”

“ฮะ!”

อีกแล้ว...นี่มันเรื่องเซอร์ไพรส์บ้าบออะไรอีก มันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ๆ ผมไม่เชื่อว่าตัวเองจะโด่งดังเป็นที่สนใจได้เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผมหายไป แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันเป็นเพราะอะไรหรือเพราะใครกันแน่

“แล้วนี่น้องแก๊ปกำลังจะกลับบ้านเหรอครับ ให้พี่ไปส่งมั้ย”

“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วยเอ่อ คุณ...”

“พี่ชื่อวิทย์ เรียกพี่วิทย์เฉยๆ ก็ได้ ถ้าน้องแก๊ปไม่ให้พี่ไปส่ง ถ้าอย่างนั้นพี่ขอเบอร์ได้มั้ยครับ” คนที่เพิ่งแนะนำตัวยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าผม

“ผม...ไม่สะดวกครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมเมื่อครู่ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมมองโทรศัพท์สมาร์ทโฟนราคาแพงตรงหน้าความรู้สึกไม่วางใจกับเหตุการณ์ต่างๆ จนทำให้ผมต้องส่ายหน้าปฏิเสธลูกค้าผู้มีพระคุณ

“อ่อ ไม่เป็นไรครับ” พี่วิทย์ดึงโทรศัพท์ในมือกลับไปด้วยท่าทางเสียดาย

ผมหันหลังแล้วรีบเดินออกมาทันทีโดยไม่ได้หันไปมองผู้ชายที่เพิ่งช่วยผมเอาไว้อีก ทุกอย่างดูแปลกไปหมด ผมทำงานที่บาร์นี้มาปีกว่า ในสายตาทุกคนผมแทบจะไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ

ผมกลับถึงห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงบอลยางยืดตัวเดิมแล้วเปิดโทรศัพท์มือถือนอนไถหน้าจอไปเรื่อยๆ ไล่อ่านข้อความจากน้องสาวที่ช่วงนี้เงียบหายไปตั้งแต่ผมโอนเงินค่าเทอมไปให้ก็ไม่เห็นส่งข้อความมาขอเงินเพิ่มอีก ซึ่งก็นับว่าทำให้ผมผ่อนคลายไปได้มาก

ตื้ดดดด เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังเข้ามาพร้อมกับรายชื่อผู้ติดต่อที่ผมไม่ได้กดบันทึกเอาไว้ ผมจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจกดรับสายคนที่โทรเข้ามาหาผมกลางดึก

ผม : ครับ // ผมกรอกเสียงลงไปพร้อมกับพลิกโทรศัพท์มาจ้องดูเบอร์ที่ตัวเองไม่คุ้นอีกครั้งด้วยความไม่มั่นใจ

080-xxxxx : สวัสดีครับน้องแก๊ป // เสียงปลายสายอีกฟากตอบกลับมาจนสมองผมชาไปหมด

ผม : พี่วิทย์เหรอ? // ผมเดาจากเสียงห้าวๆ ซึ่งเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนเสียงนี้เป็นน้ำเสียงสุดท้ายที่พูดคุยกับผม

080-xxxxx : ดีใจจังที่น้องแก๊ปจำเสียงพี่ได้ด้วย // ผมลุกขึ้นมาจากที่นอนแล้วหันไปกวาดตามองรอบห้องก่อนจะลุกขึ้นชะเง้อคอลงไปมองทางช่องหน้าต่างหอพักด้วยความหวาดระแวง รู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ พี่วิทย์ก็โทรเข้ามาหาผมทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ให้เบอร์โทรของผมไปเสียหน่อย

ผม : เอ่อ...พี่วิทย์ได้เบอร์ผมมาจากไหนครับ

พี่วิทย์ : อย่าโกรธพี่นะ คือพี่ไปขอเบอร์แก๊ปมาจากเพื่อนที่เป็นเด็กนั่งดริ๊งในร้านน่ะ

ผม : อ่อ แล้วพี่วิทย์มีอะไรหรือเปล่าครับถึงได้โทรมาหาผม

พี่วิทย์ : คิดถึงครับ

ผม : ฮะ // ผมสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นมานั่งบนที่นอนอีกรอบเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคคำว่า “คิดถึง” จากคนที่เพิ่งเจอหน้ากันเมื่อครู่

พี่วิทย์ : ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ พี่คิดถึงจริงๆ นะ

ผม : เอ่อ...ขอบคุณครับ // ผมนั่งเกาหัวอยู่บนเตียงเรียบเรียงความรู้สึกตัวเองไม่ถูกจริงๆ ว่าผมควรรู้สึกยังไง

พี่วิทย์ : แล้วนี่พี่โทรรบกวนเวลาพักผ่อนน้องแก๊ปหรือเปล่าครับ // ปลายสายของคู่สนทนาผมมีน้ำเสียงนุ่มนวลลงเหมือนคนพูดกำลังกระซิบอยู่ข้างหูผมไม่มีผิด

ผม : ก็ไม่ขนาดนั้นครับ

พี่วิทย์ : ถ้าอย่างนั้นน้องแก๊ปพักผ่อนเถอะครับ พี่ไม่รบกวนเวลาน้องแก๊ปแล้ว

ผม : ครับ // ผมพยักหน้าให้กับโทรศัพท์มือถือตัวเองอย่างช้าๆ ก่อนจะเลื่อนมือเพื่อเตรียมจะกดวางสาย

พี่วิทย์ : น้องแก๊ป // ผมชะงักนิ้วหัวแม่มือที่กำลังเลื่อนไปหยุดอยู่ตรงเครื่องหมายปุ่มสีแดงสำหรับวางสายเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายดังลอดกลับมา

พี่วิทย์ : ฝันดีนะครับ..........

ผมล้มตัวลงนอนบนหมอนหนุนนิ่มย้วยเพราะความเก่าของมันพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปจ้องพัดลมเพดานตัวเก่าที่มันกำลังแกว่งส่ายไปมาเพราะแรงเหวี่ยงของมอเตอร์ อากาศร้อนอบอ้าวนิดๆ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่เพราะผมชินแล้ว ในสมองของผมมีแต่ความสับสนวิ่งวนไปมาไม่หยุด

ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงนอนอีกครั้ง เมื่ออยู่ๆ เสียงประตูห้องของผมก็มีคนมาเคาะอยู่ด้านหน้า ผมนั่งกลืนน้ำลายตัวแข็งไม่กล้าขยับสายตายังจับอยู่กับบานประตูไม้ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตรด้วยความหวาดระแวง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะซ้ำของใครบางคนยังเรียกหาให้ผมไปเปิดประตู ผมไม่เคยมีเพื่อนหรือมีแขกมาหาในช่วงเวลากลางดึกแบบนี้มาก่อนเพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ยืนอยู่อีกฟากของประตูกำลังทำให้ผมกลัว

“ใครครับ?”

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.