17.30น.
เปลือกตาบางค่อยๆลืมตาขึ้นมา แสงสลัวจากโคมไฟที่โต๊ะหัวเตียงพอทำให้เธอได้เห็นว่าที่นี่ที่ไหน ถึงแม้เธอจะเคยเข้ามาแค่ครั้งเดียวก็ตาม
"ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา" เป็นจังหวะที่สิงห์เปิดประตูเข้ามาพอดี ก็เห็นน้ำอิงนอนลืมตาอยู่
"ไม่ต้องถามเยอะ" สิงห์พูดขัดทันทีเมื่อเห็นว่าน้ำอิงกำลังจะอ้าปากถามตนเอง
"ฉันไม่ป้อนหรอกนะ กินเอาเอง" สิงห์วางโจ๊กกับยา ที่เขาสั่งคนของเขาให้ไปซื้อเอาไว้ให้ พร้อมกับถุงกระดาษที่มีเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวางไว้ที่ข้างเตียงก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาขนาดกลางที่ปลายเตียง
"ก็ได้ค่ะ ไม่ถามอะไรก็ได้แล้วก็กินโจ๊กก็ได้แต่ไม่กินยาได้ไหมคะ"
"เรื่องมาก" ถึงจะได้ยินคำบ่น แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก 'คนอะไรแก่แล้วยังขี้บ่น แต่ก็ยังดูดี'
สิงห์เหมือนโดนสะกดให้หยุดมองใบหน้าหวานที่กำลังอมยิ้มไปกินโจ๊กไปแถมยังฮัมเพลงอีกต่างหาก
"นี่เธอป่วยจริงไหม"
"ป่วยจริงสิค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้วเพราะหนูมียาดี" สิงห์ถึงกลับเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะหรี่ตาอย่างจับผิด
"ฉันเพิ่งให้ยาเธอและเธอก็ยังไม่ได้กิน" น้ำเสียงที่ราบเรียบแต่ก็แฝงไปด้วยความสงสัย
"อย่าทำหน้าเหมือนอยากรู้คำตอบแบบนั้นสิคะ หนูไม่บอกหรอก" ในเมื่อคนตรงหน้าไม่อยากบอกเขาก็ไม่ได้อยากรู้เสียเท่าไหร่
"ลุงค่ะ ลุงมีแฟนไหมคะ โสดใช่ไหมคะ"
"..." สิงห์หันหน้าไปมองหญิงสาวที่พูดแจ้วๆทั้งที่ยังมีโจ๊กอยู่เต็มปาก 'เห็นแล้วอยากบีบปากจริงๆ'
"แล้วลุงทำไมต้องขึ้นรถเมล์ด้วยล่ะคะ ทั้งๆลุงรวยขนาดนี้"
"กินโจ๊กหมดแล้วก็กินยาซะ เร็วๆ ฉันจะได้ออกไปทำงาน" น้ำเสียงปนหงุดหงิดทำให้น้ำอิงเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งโซฟาอยู่ที่ปลายเตียงที่กำลังมองหน้าเธออยู่เช่นกัน
"หนูกินยาแล้วหนูจะอ้วก..หนูไม่กินได้ไหมคะเดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ" เธอทำท่าเบ่งกล้ามทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเขาก็ไม่เห็นเพราะเธอใส่เสื้อสเวตเตอร์ตัวใหญ่อยู่
"หรือว่าลุงจะป้อนยาหนู" สิ่งที่เธอคิดก็คือเวลาที่เธอไม่สบายแม่ของเธอมักจะเอายาสอดไว้ที่ขนมที่เธอชอบกินแล้วก็ป้อนไปทั้งแบบนั้น
"ถ้าไม่อยากหายก็ไม่ต้องกิน ฉันจะไปทำงาน"
"ใจร้าย! ลุงใจร้าย..." เท้าใหญ่ที่กำลังจะก้าวออกไปหยุดกึกทันที แล้วหันหน้าไปมองคนที่กำลังมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่ สิงห์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆแล้ว เดินตรงไปที่เตียงพร้อมกับเทน้ำใส่แก้วแล้วหยิบยาออกมาสองเม็ด
"กิน อ้าปาก"
"ขม.." สิงห์พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้หงุดหงิดใส่เธอ ก่อนที่จะคิดได้ว่าเขาต้องป้อนยาแบบไหน เมื่อเขาคิดถึงตอนที่ตัวเองป้อนยาให้กับดอกแก้วครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และเธอก็งอแงงแบบนี้เช่นกัน
"หลับตา ห้ามลืมตาจนกว่าฉันจะสั่ง เข้าใจไหม!" น้ำอิงพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหลับตาปี๋ท้้งสองข้าง
"อ้าปากหน่อย" ปากบางอ้ากว้างเหมือนอย่างที่รอรับขนมชิ้นใหญ่อย่างที่เธอเคยทำกับแม่ จนทำให้สิงห์ถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆในลำคอ
สิงห์หยิบยาที่มือใส่ลงไปที่ปลายลิ้นของตัวเองแล้วก้มลงเอาปากไปจ่อที่ปากของน้ำอิง มือใหญ่ประคองใบหน้าของเธออย่างทะนุถนอมก่อนจะดันลิ้นของตัวเองเข้าไปในโพรงปาก
สิ่งที่สัมผัสได้ทำให้น้ำอิงลืมตาขึ้นมาทันทีแล้วคนตรงหน้าก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน ลิ้นนุ่มห่อลิ้นหนีเม็ดยาทำให้ลิ้นสากดันเข้าไปลึกกว่าเดิม ทำให้สิงห์ตัดสินใจที่จะจูบแลกลิ้นเพื่อดึงความสนใจออกจากเม็ดยา
เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปฉกชิมน้ำหวานจนทั่ว แต่ก็ยังใช้ลิ้นร้อนดูดดึงลิ้นนุ่มอย่างเอาแต่ใจไม่ยอมถอนจูบ เขานึกชอบความเงอะๆงะๆของเธอแล้วสิ ถึงแม้ยาจะลงไปคอและผมรับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ 'คงจะขมสินะ'
ผมถอนจูบออกมาอย่างเสียดาย ก่อนจะเอื้อมมือไปยกแก้วน้ำให้เธอดื่ม ผมยิ้มให้กับอาการนิ่งงันของเธอแต่ก็ต้องหุบยิ้มทันทีกับประโยคที่เธอพูดขึ้น
"ลุงต้องผิดชอบ นี่เป็นจูบแรกของหนูนะ"
"ไร้สาระ!" ผมพูดผมพร้อมกับรีบเดินออกจากห้องนอนของผม แล้วออกจากห้องเพื่อไปดูงานที่ผับต่อ
นิ้าอิงเอานิ้วมือแตะที่ริมฝีปากของตนเองพร้อมกับลูบไปมาด้วยหัวใจที่เต้นรัว ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำก้มหน้ากับหมอนแล้วกรี๊ดออกมาดังๆ
"กรี๊ดดด"
ความเขินอายของเธอทำให้ใบหน้าและใบหูแดงเรื่อ แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยสุขที่ไหลเวียนในกายสาววัยแรกแย้ม เธอนอนกลิ้งไปมาอยู่บนที่ห้องสักพักก่อนจะเดินหากระเป๋าผ้าของตัวเอง
มือเล็กหยิบโทรศัพท์ออกมาก็รีบโทรไปที่ผับเพื่อลางานกับพี่ปิ่นที่เป็นหัวหน้าห้องครัว ทันทีที่ปลายสายรับเธอก็ได้ยินคำถามหลายๆคำถามที่ดังออกมาจากปลายสาย ทำเอาเธอถึงกับนิ่งงันไปชั่วขณะ
"น้ำอิง หนูไปรู้จักกับคุณสิงห์ได้ยังไง แล้วสนิทกันมากๆเลยเหรอคุณสิงห์ถึงได้ให้พี่องอาจมาลาป่วยให้ที่แผนก แล้วไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"..."
"น้ำอิง น้ำอิงได้ยินพี่พูดไหม เป็นอะไรหรือเปล่า"
"คุณสิงห์..เขาเป็นใครเหรอคะ"
"ห๊ะ!" ปิ่นหัวหน้าแผนกถึงกับอุทานเสียงดัง นี่มันเรื่องอะไรกันแล้วเธอควรจะเล่าไหมถ้าเล่าไปแล้วคุณสิงห์รู้เข้าแล้วตัวเองจะโดนอะไรไหมนะ
"เอาไว้มาทำงานพี่ค่อยเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะ พักผ่อนให้หายก่อนแล้วค่อยมาทำงาน แค่นี้นะน้ำอิง" ปิ่นพูดเสร็จก็เรียบวางสายแล้วเดินขึ้นไปชั้นสี่ เพื่อคุยกับองอาจคนสนิทของคุณสิงห์
Waiting for the first comment……
Please log in to leave a comment.