ฉันชื่อตันหยง มีคนจ้างให้ฉันมาดูแลลูกชายของเขา เพื่อแลกการได้เรียนต่อ ได้เงินไว้ใช้ และจะได้เงินก้อนเมื่องานเสร็จแล้ว "คนนี้เหรอคะ" ฉันเดินตามคุณพิศมัยขึ้นมาด้านบน เจอชายคนหนึ่งกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่ สร้างความแปลกใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก เพราะคุณพิศมัยให้ฉันมาดูแลลูกชาย ฉันเข้าใจว่าเป็นเด็กตัวเล็ก แต่นี่ที่ฉันเจอ ตัวอย่างกับยักษ์ "ใช่จ๊ะ นี่แหละที่ป้าให้หนูมาดูแล" คุณพิศมัยตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอดูจะมีความสุขมาก ผิดกับฉันที่ยืนตะลึงอยู่ "ตัวขนาดนี้แล้ว ยังต้องการคนดูแลอีกเหรอคะ" ฉันมองชายคนนั้นสลับกับคุณพิศมัย ตัวขนาดนี้แล้วเขาปัญญาอ่อนหรือยังไงทำไมถึงต้องการคนดูแล ฉันงง "ยิ่งโตยิ่งดื้อ เถลไถลมาก วัน ๆ ควงสาวไม่ซ้ำหน้า ป้าเหนื่อยใจ ป้าอยากให้หนูคอยดูแลเขา คอยขัด ๆ เขาเวลาควงสาว ยิ่งป้าไม่อยู่แบบนี้ คงจะยิ่งสนุก" คุณพิศมัยตอบกลับมาด้วยท่าทางที่เหนื่อยใจกับลูกชายตัวเอง "เขาจะไม่ไล่หนูเหรอคะ" ฉันมองไปที่นายนั่นที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่อง "ไล่สิ" "ห๊ะ" ฉันหันขวับและอุทานออกมา "เขาไล่อยู่แล้ว แต่ป้าเชื่อว่าหนูเอาอยู่ หนูจะทำอะไรกับลูกชายป้าก็ได้ ป้าไม่ว่า" คุณพิศมัยตอบกลับมา " !!! " ฉันได้แต่ยืนอ้าปากค้างกับคำตอบของคุณพิศมัย ดูเหมือนจะง่ายนะ แต่ก็แค่เหมือนนั่นแหละ เพราะมันไม่ง่ายเลย เขาทั้งกวนประสาท ทั้งเจ้าเล่ห์ ทั้งต้องการแต่เรื่องอย่างว่า ฉันล่ะปวดหัวจริง ๆ
~ตุบ~ ฉันสะดุดพื้นตัวหนอนที่เรียงไม่สม่ำเสมอกันและถลาไปชนชายคนหนึ่ง ทำให้ทั้งเขาและฉันล้มลง แต่ฉันไม่เจ็บหรอกนะ เพราะฉันล้มทับตัวผู้ชายคนนั้นน่ะสิ แผงอกแน่นๆ ซิกแพคเน้นๆ อ๊ายยย แถมกลิ่นน้ำหอมเย้ายวนมาก ฟินมากค่ะพี่ขา "อีกนานไหม" ชายคนนั้นเอ่ยถาม "นานอะไรคะ" ฉันถามเขา โดยที่หน้าหน้ายังคงซุกที่อกเขา "จะนอนทับอีกนานไหม ฉันหนัก!" เขาตะคอกง่ะ แงงงง ทำไมต้องตะคอกกันด้วย "อุ๊ย ขอโทษค่ะ" ฉันรีบดันตัวลุกขึ้นยืน เขาก็ลุกยืนตาม "นี่เธอ!!!" พอได้เห็นหน้ากันชัดๆ ทั้งเขาและฉันก็เบิกตาโต อ้าปากค้าง แต่เขาเป็นฝ่ายยกนิ้วขึ้นชี้หน้าฉันและเอ่ยขึ้นมาก่อน "ฉันเจอพี่ทีไร ฉันซวยทุกที" ก็ไอ้รุ่นพี่คนนั้นน่ะสิ่ วันนี้ฉันเจอเขา 3รอบแล้วนะ และมีปัญหาทุกรอบ "ฉันต้องเป็นคนพูดคำนั้นมากกว่านะ ยัยซุ่มซ่าม" ฉันก็รู้ตัวว่าฉันซุ่มซ่ามแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อยนิ่ หลังจากนั้นฉันก็เจอเขาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันรับน้อง... "น้องมาสายไป 2นาที 39วินาทีนะครับ" จับวินาทีด้วยเหรอวะ ไอ้บ้าเอ๊ย "รู้ค่ะมีนาฬิกา" ฉันยกแขนขึ้นให้เขาเห็นนาฬิกา ฉันกวนตีนเขานั่นแหละ หมั่นไส้! ฉันนั่งมองพวกหนุ่มๆ H.D. ที่ยืนเก็กขรึม ดึงหน้าตึง และมองพี่เจมส์ ที่พูดแหกปากเสียงดัง "แหกปากขนาดนั้นไม่เจ็บคอเหรอวะ" ฉันหันไปกระซิบกับน้ำอุ่น "แกเงียบๆ เหอะ" น้ำอุ่นตอบกลับ "คุยอะไรกันครับ" ไอ้พี่เจมส์เล่นฉันอีกแล้ว -*- ความกวนที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี ก็ดันมียัยพี่ฟ้า พี่สายรายรหัสตัวแสบเข้ามา!
อุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะนำพาความรักดีๆมาให้ฉัน โบว์ นี่คือชื่อของฉัน ฉันกำลังขับรถตามแฟนที่เพิ่งจะรับผู้หญิงรูปร่างอย่างกับนางแบบขึ้นรถไป แต่พอถึงทางแยกฉันก็ขับรถตัดหน้ารถคันหนึ่งเข้า "เอางี้ เดี๋ยวฉันจะให้ประกันเอารถไปทำ และตอนนี้เธอต้องไปส่งฉัน และคอยรับส่งฉันที่มหาวิทยาลัย จนกว่าฉันจะได้รถ" เขาบอกออกมาเสียงเรียบ เขาคงใจเย็นแล้วมั้ง แต่ฉันรีบฉันไปส่งเขาไม่ได้ "ฉันมีธุระด่วน ฉันไปส่งคุณไม่ได้" "ฉันไปด้วย ขึ้นรถ" เจ้าตัวเดินอ้อมไปอีกฝั่ง และเปิดประตูขึ้นนั่งทันที ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสแย้งอะไร เขาขึ้นรถไปกับฉัน ทำให้เขารับรู้การเลิกราของฉันกับแฟน เราสองคนสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และพัฒนามาเป็นความรัก แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ ก็มีดราม่าปะปนเข้ามา
เพจมหาวิทยาลัยลงรูปหนุ่มๆ แก๊ง H.D. บ่อยมาก แต่ละคนหล่อมากกกก แต่ฉันสะดุดสายตาอยู่ที่คนนึง ทุกครั้งที่เปิดดูจะเลื่อนหาแต่รูปของเขาเท่านั้น \'คิม\' แววตาของเขาเซ็กซี่ขยี้ใจฉันมาก แต่เขาก็หน้านิ่งมากเหลือเกิน ฉันแอบชอบเขาจากรูปถ่าย หน้านิ่งขนาดนี้ น้ำอุ่นชอบ >< "นิ่งขนาดนี้ น้ำอุ่นขอขโมยหัวใจนะคะ" ฉันนอนพูดคนเดียว ในขณะที่ฉันกำลังดูรูปเขา ฉันเปิดดูรูปเขาทุกวัน ตั้งแต่เรียนม.6เทอม2 แล้ว ฉันเฝ้ารอวันที่จะได้มาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเขา แถมคณะเดียวกันอีก >< ****************** ฉันเดินกวาดสายตาไปรอบคณะ และแล้วสายตาฉันก็ไปสะดุดที่ผู้ชายคนหนึ่ง สูง หุ่นดี ดูโดดเด่นมากเป็นพิเศษ สาวๆ หลายคนก็มองไปทางเขา และพอเขาหันหน้ามา พี่คิม... ฉันเจอเป้าหมาย!!! กรี๊ดดด ดีใจ ได้เจอไวกว่าที่คิด และที่ไวกว่านั้น คือขาของฉัน ตอนนี้ฉันหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว "สวัสดีค่า พี่คิม" ฉันเอ่ยทักทาย และยิ้มแสนจะสดใสให้เขา "..." เงียบ ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก "หนูชื่อน้ำอุ่นนะคะ เพิ่งเข้ามาเรียนที่นี่" ถึงเขาจะเงียบใส่ก็ไม่เป็นไร ฉันพูดคนเดียวก่อนก็ได้ "..." เงียบกริ๊บ "พี่คิมพูดไม่ได้เหรอคะ" ลองแซวดูหน่อยก็แล้วกัน เผื่อเขาจะพูดอะไรกับฉันบ้าง "พูดได้ แต่ไม่อยากพูดกับเธอ" อ่า... แบบนี้เงียบเหมือนเดิมจะดีกว่าหรือเปล่า "แต่พี่ก็พูดนะเมื่อกี้" ฉันยังคงกวนเขาต่อ จะโดนเตะไหมเนี่ย "รำคาญ" แงงง ทำไมต้องรำคาญฉันด้วย *************** ระวังตัวไว้ให้ดี สาวน้อยคนนี้จะขโมยหัวใจของนายแล้วนะ พ่อเทพบุตรหน้านิ่ง…
คุณเคยอยากใกล้ชิดกับใครสักคนมากๆ จนออกอุบายดึงเขามาใกล้ชิดไหมครับ? ตอนนี้ผมกำลังทำแบบนั้นเลยครับ "ต่อไปเธอต้องเป็นเมียฉัน" ผมบอกกับคนตรงหน้า ที่ผมเพิ่งจะช่วยเธอให้รอดจากการถูกลวนลาม "ฮะ! ไม่มีทาง" "แค่ช่วยเป็น เมียปลอมๆ ช่วยกันผู้หญิงพวกนั้นออกจากฉัน" ผู้หญิงพวกนั้นที่ผมพูดถึงก็คือ แองจี้ ว่าที่คู่หมั้นที่แม่ผมพยายามจะจับคู่ให้ ผมไม่ได้สนใจแองจี้เลยสักนิด เพราะผมแอบชอบ น้ำขิง มาเป็นปีๆ แล้ว และตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดเธอแล้ว "เลิกเป็นแฟนปลอมๆ กันไหม" "ไม่เอา ไม่เลิก" ไม่ยอมโว๊ย ก็อดใกล้ชิดกันอะดิ่ "ทำไมล่ะ" น้ำขิงถามกลับมา ผมซบหน้าลงที่อกเธอ อืมมม นุ่ม เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งหื่น ต้องคุยก่อน "อาร์มไม่อยากห่างจากน้ำขิง อาร์มแอบชอบมาเป็นปีแล้วนะ กว่าจะได้ใกล้ชิดกันจริงๆแบบนี้" เอาหน้าฟัดนมซะเลย "แน่ใจนะว่าจะไม่เลิกเป็นแฟนปลอมๆ" "แน่ใจ อาร์มไม่เลิก" "น่าเสียดายนะที่นายไม่ยอมเลิกเป็นแฟนปลอมๆ ฉันจะขยับสถานะเป็นแฟนจริงๆ ซะหน่อย" "พูดว่าไงนะ" ผมมองใบหน้าสวยของน้ำขิงแล้วถามออกไป "ก็นายชอบฉันมาเป็นปีแล้วนิ่ ก็เปลี่ยนสถานะดีกว่าไหม" ได้ยินแบบนี้แล้วผมก็ยกยิ้มด้วยความดีใจ "งั้นเป็นแฟนกันนะ" "อืมมมม" น้ำขิงตอบกลับมา
คนแรกที่ผมรัก คือคนสุดท้ายที่ผมจะรัก! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เล่ห์กลใด ขอแค่ให้ได้เธอกลับคืนมา ผมก็จะทำ! หากตอนนั้นรู้ใจตัวเอง ว่ารักจนสุดหัวใจ ผมจะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่นอน แต่มันก็สาย... มารู้ใจตัวเองก็ตอนที่เธอมีใครอีกคนเข้ามา จะให้ผมเข้าไปแทรกกลาง ก็คงไม่ใช่ สิ่งที่ผมทำได้ก็คือรอ... รอวันที่ผมได้เดินเข้าไปขอให้เธอกลับเข้ามาในชีวิตของผมอีกครั้ง ***** “พี่รักอิงค์มากนะ พี่มันโง่เองที่ไม่รู้แม้กระทั่งหัวใจของตัวเอง มารู้ตัวก็ตอนที่อิงค์ไปจากพี่แล้ว” “อิงค์มีแฟนใหม่แล้ว” “ให้พี่เป็นชู้ได้ปะ” ฉันกลอกตาไปมา ให้ได้อย่างนี้สิไอ้บ้า! ขนาดนี้แล้วยังจะกวนอีก จะหาความจริงจัง จริงใจ จากผู้ชายที่ขึ้นว่าแฟนเก่าอย่างเขาได้ไหม “ได้เปล่าอะ” ยังจะถามฉันอีก ไอ้บ้าเอ๊ย “ไม่ได้! อิงค์คบใครอิงค์ก็รักแค่คนเดียว” “ไม่ต้องรักพี่ก็ได้ แต่ขอให้พี่อยู่ใกล้ ๆ ได้ไหม ให้พี่ได้รักอิงค์ฝ่ายเดียวได้ไหม” “ก็เรื่องของพี่สิ พี่รักอิงค์ก็เรื่องของพี่ แต่ก็ท่องไว้เลยว่าอิงค์ไม่ได้รักพี่แล้ว” “สรุปว่าอิงค์ยอมให้พี่เป็นชู้แล้วนะ” ฉันอยากจะบ้าตาย ทำไมเขาถึงดื้อด้านได้ขนาดนี้นะ ถึงขนาดกับจะยอมเป็นชู้เนี่ยนะ นี่พูดจริงหรือกวนกันแน่ ฉันชักจะแยกไม่ออกแล้วนะ *****
**********วิศวะxนักศึกษาพยาบาล********** [ภณ] ‘เธอเรียนทำหน้าที่ดูแลคนไข้ ส่วนตัวผมก็ชอบทำหน้าที่เป็นคนไข้ไปให้เธอดูแล’ คนหนึ่งอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่อีกคนโหดห่าม ไม่เกรงกลัวใคร คุณว่าจะไปด้วยกันได้ไหม? ใคร ๆ ก็ว่าไม่มีทางไปด้วยกันได้ คนอ่อนหวานขนาดนั้นคงไม่มีทางหันมาชอบผม แต่ผมมั่นใจเสมอว่าเธอกับผมจะต้องไปด้วยกันได้! "นาย นายจะตามฉันมาทำไม" "ก็จะไปส่ง ไปส่งถึงห้อง" "ไม่ ฉันไม่ไปในกับคนน่ากลัวอย่างนาย" "อย่ากลัวฉัน แล้วเราเดินไปด้วยกันเถอะนะ" [ขนมผิง] สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพยายามจะก้าวขาเดิน แต่มันเดินไม่ออก เพราะคนข้าง ๆ ที่ตามมาด้วย เขาคือคนที่น่ากลัว น่ากลัวมากสำหรับฉัน เห็นเต็มตาว่าเขาเหวี่ยงคู่อริเข้ากับโต๊ะ อีกทั้งยังยันอีกฝ่ายด้วยฝ่าเท้าของเขา ถ้าไม่มีใครมาจับเขาออก อีกคนคงต้องเละแน่ ๆ แล้วแบบนี้ ฉันจะกล้าเดินไปกับเขาได้ยังไงล่ะ... แต่ก็ผิดคาด เพราะความน่ารักในมุมของเขาทำให้ฉันเองก็ชอบเขาและยอมเดินไปด้วยกัน เดินไปกับเขา...
ปิดประตูขังเธอไว้ในพื้นที่ของเพื่อนสนิท กว่าจะรู้ตัวว่าผมเองก็ต้องการให้เธออยู่ในพื้นที่คนรักเหมือนที่เธออยากอยู่ เธอก็ไม่ยอมออกจากพื้นที่นั้นเสียแล้ว... “กราฟ มึงว่าชื่อเราสองคนดูเข้ากันปะ” “เออ กราฟกลอย ก็เข้ากันดี” “กูว่าเราสองคนก็เข้ากันได้ดีเหมือนชื่อเลยนะ นี่ถ้าเป็นแฟนกันคงจะดีมาก ๆ เลยแหละ” อุตส่าห์ทำใจกล้าพูดหยอดออกไป แต่ประโยคนั้นก็หายไปในอากาศ ล่องลอยไปกับลม ไม่ได้เข้าหูของคนข้าง ๆ เพราะสายตาของเขาจับจ้องไปยังบุคคลที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ เขายิ้ม เขาดูตื่นเต้นที่ได้เจอ ขนาดฉันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะ เขายังไม่รู้ตัวเลย
เร่งรถให้เข้าเส้นชัยน่ะไม่ใช่เรื่องยาก… แต่การที่จะเร่งทำคะแนนให้ ‘ของเดิมพัน’ หันมารักน่ะโคตรยาก ***** “นายเปลี่ยนไปมากเลยนะ” “ยังไงเหรอ” “นายพูดเยอะขึ้น นาย… ดูใส่ใจคนรอบตัวมากขึ้น” “บ้า” ผมพูดจบก็กลั้วหัวเราะแล้วพูดต่อ “ไฟก็ใส่ใจอยู่แล้ว ไม่งั้นไฟจะรู้เหรอว่าติมชอบอะไรไม่ชอบอะไร” “ก็เมื่อก่อนนายไม่เคยแสดงออกนิ… แต่นายก็ยังใจเย็นอยู่เหมือนเดิมเลยนะ ไม่ร้อนเหมือนชื่อเลย” ไอติมพูดต่อ “ไอติมยังใจร้อน ไม่เย็นเหมือนชื่อเลย” ผมตอบกลับไป ไอติมก็ถลึงตาใส่ผม “นี่นายย้อนเหรอ” เธอเอาตะเกียบชี้หน้าผม ผมก็ยิ้มอยู่ดีไม่ได้รู้สึกกลัวเลย “ไฟไม่ใช่ไฟที่ร้อนแรงอย่างกับเผาไหม้ แต่เป็นไฟที่อบอุ่น” ผมพูดแล้วคลี่ยิ้มออกมา วางตะเกียบในมือลงแล้วมองตาไอติม “และจะให้ความอบอุ่นแค่กับคนที่ไฟรัก” ผมพูดจบก็รีบหันหน้าหนีเลย เขินโคตร ๆ ก็ไม่รู้ว่าไอติมจะเข้าใจที่ผมสื่อหรือเปล่า เพราะเธอเองก็เงียบไปเลย ผมก็ไม่กล้าหันไปมองว่าตอนนี้เธอทำหน้าอย่างไร *****
เมื่อเขารักก็ไม่สนใจ แต่เมื่อเขาจะไปกลับอ้อนวอน… ********* “ขวัญมาแต่งงานกับภูมิไหม ภูมิก็โดนแม่บังคับให้แต่งงานกับคนอื่น เราสองคนมีชะตากรรมเดียวกันเลยนะ” ภูมิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง หากเขาและเธอแต่งงานกันก็ไม่ต้องไปแต่งกับใครก็ไม่รู้ ดวงตาคู่สวยมองภูมิไม่กะพริบ ในสมองคิดเรื่องที่ไปขอพรเมื่อวันก่อน หรือว่าภูมิจะเป็นคนที่เบื้องบนส่งมาให้ตามสเปกที่เธอขอ วันนั้นภาพคนที่แว้บเข้ามาในสมองก็คือภูมินี่แหละ ตอนแรกคิดว่าจะมีผัวเพราะแม่หาให้ แต่ตอนนี้ชักไม่มั่นใจเสียแล้วสิ… ภูมิก็โดนแม่หาคู่ให้ เธอเองก็โดนแม่หาคู่ให้ แถมยังนัดมาที่โรงแรมเดียวกันอีก ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ เขาต้องเป็นคนที่เจ้าแม่ส่งมาให้แน่นอน หูยยยย ได้ตามสเปกที่ขอจริง ๆ ด้วย รีวิวเหล่านั้นไม่จกตา และเธอก็คงต้องรีวิวแล้วด้วยแหละแบบนี้ “ขวัญ” ภูมิเห็นว่าขวัญเงียบอยู่นานจึงเรียกเบา ๆ เจ้าของชื่อสะดุ้งเมื่อถูกปลุกจากห้วงความคิด “แต่งงานกันกี่ปี” การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักของภูมิ…คงต้องมีจำนวนปีระบุไว้บ้าง “ไม่มีกำหนด” “หื้อ” “ภูมิไม่ได้คิดมาอะ เราก็อยู่กันไปยาว ๆ เลยก็ได้นี่” อยู่กันไปยาว ๆ นี่ยาวขนาดไหน? ตลอดชีวิตเลยหรือเปล่า… ***** “ขวัญ” “ขวัญหยุดก่อน” “เพียงขวัญ!!!” สองขาเรียวหยุดชะงักเมื่อเจ้าของเสียงทุ้มตะโกนชื่อจริงที่เขาชอบนักชอบหนา ดวงตาคู่สวยฉายแววความอึดอัดระคนเศร้าจับจ้องไปยังต้นเสียง “มีอะไร” หนีมาตั้งหลายเดือนแล้วยังจะตามมาเจอจนได้อีก ภูมิสืบเท้าก้าวยาว ๆ มาหยุดยืนตรงหน้า ในขณะเดียวกันเท้าเรียวเล็กก็ก้าวถอยหลังไป บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่อยากเข้าใกล้ เขาเลยจำเป็นที่จะหยุดอยู่กับที่ มันน่าจะดีกว่าการที่เขาต้องเห็นขวัญถอยหนีออกไปเรื่อย ๆ “ที่ขวัญขอ…” ภูมิเงียบไปชั่วอึดใจ “ภูมิไม่ให้” เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นบนใบหน้าของขวัญเต็มไปหมด ในวันที่ขวัญขอไม่เห็นพูดอย่างนี้ แต่พอเธอออกมาแล้วกลับมาบอกเนี่ยนะ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความระอา “อย่าลืมข้อตกลง” พูดเพียงเท่านั้นขวัญก็หมุนตัวหันหลังให้แล้วเดินไปที่รถคู่ใจของตัวเอง แต่แล้วก็มีแรงฉุดแขนจากทางด้านหลังทำให้ร่างอวบอิ่มถลาเข้าชนกับอีกฝ่ายเข้าเต็ม ๆ “แล้วถ้าภูมิขอขวัญบ้างล่ะ” “ไม่มีในข้อตกลง” “ภูมิเพิ่มเอง” “นิสัย…แล้วจะขออะไร” “ภูมิจะขอว่า…อย่าหยุดรักภูมิเลยนะขวัญ” เขาแสดงความอ้อนวอนผ่านทางดวงตา “ได้” ภูมิคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “จะกลับไปอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม ไปวันนี้เลยป้ะ เดี๋ยวภูมิไปช่วยขนของ” “ไม่ได้จะกลับไปอยู่ด้วย ขวัญแค่ตอบตกลงว่าจะไม่หยุดรักภูมิ เพราะขวัญไม่เคยทำได้ตั้งแต่มอหกแล้ว แต่เรื่องระหว่างเรามันจบลงตรงนี้ดีที่สุดแล้วภูมิ” ขวัญระบายยิ้มบาง ๆ *****
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.