Reads
อามันต์ยังคงท่องเที่ยวไปตามหมู่บ้านต่างๆ อย่างไม่คิดหยุดพัก ความสุขของเขานอกจากดูแลสัตว์น้อยใหญ่ในป่าดงดิบ เรือนร่างของหญิงสาวทั้งหลายแหล่นี่แหละคือสิ่งเดียวที่เขายังคงปรารถนา อย่างไม่จบสิ้น หรืออาจจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของเขานั่นแหละ... ---------------------------------------------------- คำโปรย... เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เขากำลังนั่งชมแสงจันทร์ท่ามกลางแมกไม้ไหวสะบัดไปตามแรงลมพัดเอื่อยเฉื่อย ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าอย่างเพลิดเพลินอุรา แต่แล้วจู่ๆหูของอามันต์พลันได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบางอย่างไม่ห่างจากระเบียงกระท่อม น้ำหนักเท้าบ่งชี้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นหาใช่สัตว์ร้ายแต่อย่างใด ต้องเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ภูตสาวสักตน มาเยี่ยมเยียนเขาในเวลาเช่นนี้ชายหนุ่มพอจะเดาออกได้ไม่ยาก มนุษย์หรืออมนุษย์ตนนั้นปรารถนาสิ่งใดจากตัวเขา อามันต์จึงรีบเคลื่อนย้ายตัวมายังระเบียง มือเท้าลงบนขอบไม้ เพ่งสายตาดุกร้าวไปยังทิศทางของเสียงเคลื่อนไหว กลิ่นอะไร ทำไมถึงหอมแปลกๆเช่นนี้... อามันต์ยังไม่เห็นว่าเป็นผู้ใด มีเพียงปลายจมูกโด่งที่ได้กลิ่นหอมแปลกประหลาด กลิ่นนั้นเป็นตัวเร่งเร้าให้สองเท้าเจ้าป่าหนุ่มก้าวพรวดลงจากกระท่อมไม้ ตรงไปยังต้นสักป่าสูงตระหง่านต้นหนึ่งซึ่งใกล้กับสายตาอามันต์มากที่สุด ยิ่งเดินเข้าใกล้ต้นไม้นั่นมากขึ้นเท่าใด กลิ่นหอมแปลกประหลาดยิ่งทำให้หัวใจเจ้าป่าหนุ่มเต้นระรัว และแล้วอามันต์ก็เจอที่มาของกลิ่นหอม ดวงตาเขาหรี่แคบมองสิ่งนั้นด้วยอาการหวั่นไหวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เอ็งเป็นผู้ใดกันถึงได้มายืนหลบซ่อนอยู่หลังต้นไม้ ต้นนี้ ----------------------------------------------------------------
Updated at
Reads
มะเฟือง...เป็นเมียที่ดงไม่ ‘ปรารถนา’ -------------------------------------------------------------------- คำโปรย... ดงขันอาสามาเป็นครูสอนเพลงดาบให้กับพวกหนุ่มสาวในหมู่บ้านสามโคก ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันกระดี๊กระด๊า มีกำลังใจจะมาเรียนกันเนืองแน่น เพราะไม่เพียงแต่มีดงเป็นครูสอนยังมีทั้งทองก้อนและมิ่งแก้วสลับหมุนเวียนกันมาสอนอีกด้วย... มะเฟืองจัดแจงแต่งตัวมาเรียนเพลงดาบกับเขาด้วยคน เรื่องนี้นายทองสุขไม่กล้าขัดลูกสาว อยากให้มะเฟืองมันร่ำเรียนมีวิชาฟันดาบติดตัวไว้เหมือนกัน เขาเองนับวันก็ยิ่งแก่เฒ่าไม่รู้จะอยู่คุ้มครองลูกเมียได้นานสักกี่ปี มะเฟืองเล็งในวันที่ดงเป็นครูมาสอนเพลงดาบ ก่อนมาทุกครั้งก็ไม่ลืมเข้าครัวทำอาหารใส่ปิ่นโตมาฝากคนสอน ดงไม่ต้องการทำให้สาวๆในสามโคกเข้าใจเขาผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมะเฟือง ดงจึงเลือกจะไม่รับปิ่นโต ปฏิเสธไปอย่างไม่ไว้หน้าก็มี มะเฟืองก็หาได้จดจำใส่หัวสมอง ครั้งต่อมาเธอก็หิ้วปิ่นโตยิ้มหน้าระรื่น ยื่นส่งให้เขาอีกตามเคย “พี่ดง...วันนี้ฉันทำผัดเผ็ดหมูป่าของชอบมาฝากจ้ะ” นวลแก้มผ่องขยายออกตามรอยยิ้มกว้าง หางตาของดงเหมือนจะเห็นส้มแป้นเดินกระหนาบข้างมากับรำเพย ปิ่นโตตรงหน้าจึงถูกปัดทิ้งชนิดไร้เยื่อใย เสียงของหล่นกระทบพื้นดิน กับกลิ่นแกงในเถาปิ่นโตหกกระจายเรี่ยราดเรียกสายตาหนุ่มสาวทั่วบริเวณลานฝึกซ้อมต่างจับจ้องมาเป็นตาเดียวกัน ดงรีบเดินหนีมาทางหลังเรือนนายบ้านทัพทอง ปล่อยให้มะเฟืองยืนอ้าปากค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น พี่ดงทำเกินไปหรือไม่?มะเฟืองไม่มีเวลาคิด ครั้นพอหูได้ยินเสียงหัวเราะขบขันจากเพื่อนบ้าน เจ้าตัวก็รีบก้มลงเก็บเถาปิ่นโต น้ำตาไหลกบตาแล้ววิ่งหนีเตลิดหลบสายตาขบขันของเหล่าเพื่อนบ้านกลับเรือนตัวเองด้วยหัวใจบอบช้ำอีกตามเคย... -------------------------------------------- ดงกำลังยืนผ่าดุ้นฝืนตุนไว้ใช้ก่อนฤดูฝนจะมาเยือน...อากาศช่วงนี้ร้อนจัดทำให้เหงื่อออกค่อนข้างมาก ดงยกมือปาดเหงื่อทิ้งแต่แล้วจู่ๆก็มีผ้าขาวม้าผืนเล็กยื่นส่งมาด้านข้าง ดงหันขวับไปมอง ใบหน้ากลมดิกลอยเด่นขึ้นมาทันที “ผ้าเอาไว้เช็ดเหงื่อจ้ะ...” ดงมองเมินเบี่ยงตัวหลบร่างอ้วนที่เบียดกายเข้ามากระแซะจนน่ายันให้สักโครม เขายกขวานในมือขึ้นสูง ฟันลงฉับบนท่อนไม้ฟืน จนมันกระเด็นตกเกือบถูกขาของมะเฟือง หญิงสาวร้องว๊าย! ถูกซีกไม้ฝืนกระเด็นบาดโดนขาจนเลือดออก สาวร่างอ้วนหน้าเสียก้มมองเลือดที่ไหลเพราะปากแผลลึกพอสมควร ผ้าขาวม้าในมือถูกกำเอาไว้แน่น ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจผุดผายเข้ามา ถ้าเป็นอีสาวคนอื่นพี่ดงคงไม่ทำกิริยาเช่นนี้ ดูอย่างตอนสอนเพลงดาบให้อีพวกสาวๆหน้าตาน่าเอ็นดูพวกนั้นปะไร พี่ดงมีแต่คอยเอาอกเอาใจ ใช้น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนในยามสอน ต่างจากตอนสอนเธอลิบลับ ใบหน้าเขาบูดบึ้ง ไหนจะน้ำเสียงคำพูดทั้งแข็งกร้าวทั้งตวาดลั่นจนเธอหน้าเสียจนต้องรีบวิ่งกลับเรือน อารมณ์เสียใจถาโถมจนไม่รู้สึกเจ็บ “บอกให้ฉันหลบดีๆก็ได้นะพี่...” น้ำเสียงสั่นเครือ กระบอกตาร้อนผ่าว ไม่รู้กันบ้างเหรอไง...คนไม่สวยมันก็มีหัวใจเจ็บเป็นเหมือนกันนะ มะเฟืองไม่ตอแยเดินปรี่ออกห่างมาตักน้ำในตุ่มข้างกระท่อมเทราดไปบนปากแผลที่ถูกท่อนไม้บาดจนเกิดเลือดซึม ดงขมวดคิ้วเข้ม เอี้ยวตัวมองตามคนเดินขากะเผลกไปนู่น โกรธเขาหรือ? เออ...ขอให้มันโกรธเขาให้มากๆ จะได้รีบไปให้ไกลๆจากเขาซะที ต่อให้ในใจคิดไม่ดีแต่ก็ต้องยอมรับเมื่อกี้เขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เห็นซีกไม้ฝืนบาดเข้าเนื้อของมะเฟือง ถึงขั้นเลือดตกยางออกใจเขามันก็รู้สึกไม่ดี มะเฟืองล้างแผลจนสะอาด เอาผ้าขาวม้าในมือกดเลือดให้หยุดไหล เธอพาตัวเองมาทรุดนั่งตรงขอนไม้ หนนี้ดูเหมือนมะเฟืองเริ่มโกรธดงขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ สองตามะเฟืองจึงไม่แลขึ้นมอง เพราะแทนที่เขาจะเดินมาถามไถ่อาการกันบ้าง เขากลับหันหลัง ตั้งหน้าตั้งตาผ่าฟืนต่ออย่างสบายใจเฉิบ ------------------------------------------------------- *นิยายหนึ่งใน set พระเอกคลั่งรัก* 1.ฉกาของทัพทอง 2.หอมกลิ่นรำเพย 3.มะเฟืองรสหวาน
Updated at
Reads
ต้องยกถังใบโตใบนี้ขึ้นเทินด้านบนลังไม้นั่น มือทั้งสองข้างเกร็งจนแลเห็นเส้นเลือดโปนเริ่มมีอาการสั่นน้อยๆ เรี่ยวแรงก่อนหน้านั้นก็ค่อยๆถดถอยลง งามเด่นใจหายวาบตอนถังเปล่าทำท่าจะเอียงล้ม เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ตั้งใจฮึดสู้ใหม่ หากเรียวแขนเล็กมันกลับไม่เป็นดั่งใจ เหมือนจะอ่อนยวบจนทำให้ถังทั้งใบทำท่าจะเอียงล้มทับมายังร่างตัวเอง หญิงสาวหลับตาปี๋ ทำใจยอมรับความเจ็บปวด กำลังจะเกิดขึ้น หนนี้ไม่แขนก็ขาต้องพิการเป็นแน่... รอจนกระทั่งเหมือนตัวเองจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมละมุนบางอย่างจากอากาศ แผ่นหลังของเธอก็เหมือนกำลังสัมผัสถูกอะไรแข็งๆแต่ให้ความรู้สึกนุ่มหยุ่น เปลือกตาปิดสนิทจำต้องขยับเปิดขึ้นมอง ใบหน้าขาวใสขมวดมุ่น นี่ตาเธอฟาดหรือสมองได้รับความกระทบกระเทือนตอนถังหล่นใส่ เธอมีแขนสี่แขนตั้งแต่เมื่อไร แต่เอ๊ะ! ตัวถังยังไม่ล้มกระแทกทับเธอสักหน่อย สมองจะกระทบกระเทือนได้ยังไง... "ถ้าจะกรุณา ช่วยขยับตัวออกหน่อยจะได้ไหม? มันหนัก" คำสั่งห้วนสั้นตามแบบฉบับ หากก็ทำให้คนตกใจหันหน้าไปมองขวับ รีบปล่อยมือจากถังพลาสติกหนักอึ้งทันที "อะ!นายกร!" สิ้นเสียงตระหนกปลายจมูกโด่งรั้นดันกดเข้าหาแผงอกกว้างเข้าเต็มเปา งามเด่นได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นสปอร์ตสำหรับผู้ชาย ผิวแก้มทั้งสองข้างเห่อร้อน หัวใจเต้นระทึกครึกโครมกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขา กรกนกกำลังก้มมองมายังเธอด้วยนัยน์ตาเอือมระอา หัวคิ้วเขาขมวดมุ่น เพราะว่าต้องรับน้ำหนักของถังทั้งใบที่ถูกโอนมายังเขาคนเดียว
Updated at
Reads
ยามรำเพยหลงรัก พี่ทองก้อนกลับเมินเฉย มิหนำซ้ำยังจะผูกข้อมือสาวอื่นมาหยามน้ำใจรำเพยจนใจแทบแตกสลาย พอรำเพยตัดใจได้ เขากลับจะหวงแหน จะมาทวงความเป็นผัวทั้งที่ปากเขาบอกว่ารำเพยเป็นได้แค่น้องสาว... ---------------------------------------- “ไปหาพี่ทองก้อนดีกว่า” รำเพยรีบตักเอาแกงในหม้อใส่ปิ่นโตจนครบทุกแถวแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องครัวกลับเข้ามาในห้องนอน รีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่สำรวจความสวยหน้ากระจกจนพอใจ รีบวิ่งกลับเข้าครัวมาเอาปิ่นโตที่เต็มไปด้วยอาหารไปหาชายที่ตัวเองปักใจรักตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว นั่นไง...เขายืนหันหลังอยู่ตรงนั้นไง พี่ทองก้อนกำลังกวาดเศษใบไม้อยู่ตรงหน้าเรือน ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้รูปร่างดี้ ดี รำเพยรำพันในใจนัยน์ตาหวานเยิ้ม
Updated at
Reads
คำโปรย... ถึงได้ว่าตอนฉกาถูกนายพรานทัพทองพาตัวมาหมู่บ้านสามโคกใหม่ๆ สายตาของบรรดาสาวเล็กสาวใหญ่ในหมู่บ้านหลายคู่ ต่างจับจ้องมองมายัง ฉการาวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันซะให้ได้ ที่แท้ก็ด้วยเหตุผลของเรื่องนี้นี่เอง คงจะเสียดายของใหญ่กันสินะ... ฉกายังเคยได้ยินเสียงซุบซิบนินทาจากปากพวกคนกลุ่มนั้นบ่อยๆ ‘นังส้มแป้นคงได้ตกกระป๋องก็คราวนี้’ ‘มันก็ของแก้ขัดเหมือนกันละหว่า จะหลงมันได้สักกี่วันเชียว...’ เป็นเสียงค้านจากแม่ของคนที่ถูกกล่าวถึง เพราะหวั่นใจกลัวลูกสาวจะเป็นดั่งปากพวกมันว่า ส้มแป้นคงไม่ถูกหัวหน้าหมู่บ้านเรียกไปรับใช้บ่อยเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา คราวนี้ครอบครัวจะลำบาก ต้องกลับมาหาของป่าเอาไปแร่ขายในหมู่บ้านมะแว้งอีกเหมือนเดิม นางไม่อยากกลับไปลำบากเหมือนอดีต ฉะนั้นแล้วงานนี้จะต้องหาวิธีกำจัดอีเด็กสาวผู้นั้นให้สิ้นซาก แต่จะด้วยวิธีไหนยังคิดไม่ออก เอาไว้ค่อยหาทางในภายภาคหน้า ถ้าอีเด็กนี่กลายเป็นคนโปรดของนายบ้าน มันก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ยืนยาว หากคิดในอีกทาง ไม่แน่หรอกว่านายพรานอาจนึกเบื่ออีเด็กผู้นี้ในเร็ววันก็อาจเป็นได้... ‘แต่นายบ้านทัพ ไม่ชอบกินเด็กมิใช่หรือ...อีพวกสาวๆที่ถูกเรียกใช้ ส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นสาวเต็มตัว หรือไม่ก็อีพวกผัวตายแล้วเสือกเหงา ไม่เห็นนายบ้านทัพแกจะเคยเรียกอีพวกนมเพิ่งจะตั้งเต้ามารับใช้แบบนี้สักที’ ‘โอ้ย!มะเฟืองเอ่ย เอ็งแหกตาดูอีเด็กนั่นซะก่อน รูปร่างหน้าตามันใช่เด็กนมเพิ่งตั้งเต้าเสียที่ไหน ทั้งนมทั้งต้มใหญ่กว่าพวกเราด้วยซ้ำ’ ‘นั่นสิ...นังส้มแป้นเทียบไม่ติดขี้ตีน...’ เสียงถกเถียงของสาวเล็กยันสาวใหญ่ในกลุ่มนั้นทำให้ฉกาสนใจหันไปมองแต่กลับถูกนายบ้านสามโคกดึงให้เดินตาม *เรื่องนี้แต่งโดยจินตนาการของไรท์ตัวนิยายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลใดหรือสถานที่ใดทั้งนั้น*
Updated at
Reads
คำโปรย... "ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ...พอดีว่าหิวน้ำเลยจะเข้ามาเอา" ขวัญฤทัยก้มหน้าหนี รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาจากตัวเขา อย่าบอกนะว่าเจ้านายกำลังเข้าใจเธอกับคุณมารุตผิด แต่จะว่าไปความเข้าใจของเขาจะผิดหรือถูก มันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยสักหน่อยเพราะว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเขา ขวัญฤทัยจึงหมุนตัวเดินสวนเจ้านายหนุ่มออกมาจากห้องครัว ทำงานของตัวเองต่อโดยละความสนใจทั้งคนพี่คนน้อง เธอยังต้องขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าในห้องเจ้านายลงมาใส่เครื่องซัก เสร็จแล้วยังต้องเตรียมทำอาหารเย็น แล้วก็รดน้ำต้นไม้ งานบ้านต้องทำจิปาถะ ขวัญฤทัยจึงจมจ่อกับงานตัวเองมากกว่าจะให้ความสำคัญกับเจ้านาย "กลับบ้านแต่หัววันเลยนะไอ้พี่ชาย..." มารุตหัวเราะขบขันชอบใจอยู่ลึกๆที่เห็นแม่บ้านสาวคนงามไม่แสดงอาการกลัวไอ้พี่ชายของเขาจนหงอ เขาเอี้ยวตัวสูงหลบให้ไอ้พี่ชายเดินเอื่อยๆเข้ามาด้านใน ออสตินเพียงปรายตามองไอ้แมวขโมยพร้อมเดินมาจนถึงตู้เย็น "ก็นี่บ้านกู..." นานๆจะได้ยินออสติน โคล เอ่ยคำหยาบ นี่แสดงว่าอารมณ์ไม่ปกติจริงๆ เขาเองก็ไม่อยากเสี่ยงถ้าจะให้โดนมากกว่าถูกเตะก็ไม่อยากหาเห่าใส่หัวให้ตัวเองเจ็บตัว ดังนั้นแล้วหาทางเอาตัวรอดกลับก่อนดีกว่า "อะ...เพิ่งนึกขึ้นได้ นัดกับซ่าร่าเอาไว้ว่าจะไปหาที่คอนโด งั้นก็...ลาเลยนะครับคุณพี่..." มารุตหันหลังตั้งท่าโบกมือลาไหวๆ ออสติน โคลเหล่ตามองแผ่นหลังกว้างด้วยอารมณ์คันส้นเท้าแปลกๆ เขาเปิดฝาขวดเทน้ำลงคอดื่มจนเกลี้ยง ขวดในมือถูกบีบขยำจนบี้แบน นัยน์ตาที่ก่อนหน้าเรียบสงบกลับมาเปล่งประกายดูน่ากลัวสยดสยอง ภาพเมื่อกี้ไม่ใช่เขาไม่รู้สึก มันยิ่งกว่าการราดน้ำมันลงเปลวเพลิงดีๆนี่เอง... ---------------------------------------
Updated at
Reads
มันเป็นเรื่องของมากอยากับอีลูกสาวคนโตของเศรษฐีหม่านที่ชื่อว่าคำหวาน...อีนางคนสวยปากเสีย มาสร้างความขุ่นเคืองใจให้มากอยาอย่างแสนสาหัส ศักดิ์ศรีของขุนโจรต้องมาถูกทำลายลงด้วยถ้อยคำแสนเจ็บแสบ มันมาดูถูกมากอยา กล่าวหาว่ามากอยาเป็นไอ้พวกโจรกระจอก ไหนเลยจะมีปัญญาหาเมียฐานะสูงส่งได้อย่างตัวมัน...ถ้ามากอยาอยากได้เมียดีๆ ก็ให้หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง ผู้หญิงดีๆที่ไหนเขาจะมองไอ้โจรชาติชั่วว่าเป็นเทพบุตร มีแต่เรื่องเพ้อฝันทั้งเพ...เป็นใครมาได้ยินก็ต้องโกรธจนควันออกหูกันบ้างจริงไหม? และมากอยาก็ได้ยินชัดเต็มสองหู --------------------------------- คำโปรย... โจรหนุ่มหัวเราะร่วน แกล้งจนคลายสนุก ก่อนจะรวบข้อมือเล็กบอบบาง รัดรวมกันไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างเขาจัดการกระชากอาภรณ์ของอีสาวชาวเมืองราหูจนขาดวิ่น หลุดออกทั้งส่วนบนส่วนล่าง เหลือไว้เพียงชั้นในตัวจิ๋ว... ผิวขาวลออราวกับหยวกกล้วยปรากฏโฉมต่อหน้าขุนโจรเด่นชัด มากอยายิ้มพราว แลบลิ้นเลียรอบปากแห้งผาก หรี่สายตาคมกล้ามองเรือนร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งรับกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ *************************
Updated at
Reads
คำโปรย... “ว่าแต่ทุกอย่างจะไม่มีปัญหาตามมาใช่ไหมครับ ถ้าหากทางนี้ตอบตกลง จะรับเป็นพ่อของเด็ก...” ทัชชกรหมายถึงพ่อของเด็กตัวจริง ถ้าผลสรุปของครอบครัวเขามีความคิดเห็นตรงกัน เลือกจะให้ความช่วยเหลือมนุษย์คนหนึ่ง มากกว่าความเป็นจริงในด้านสังคมอันน่าเบื่อหน่าย ส่วนตัวเขาเองไม่รู้สึกขัดข้องด้วยเพราะไม่ได้มีพันธะอยู่กับใคร การขึ้นชื่อเป็นพ่อให้เด็กสักคน คงไม่ใช่เรื่องต้องทำให้ใครเดือดร้อน “ถ้ากรจะหมายถึงเจ้ากษิ รายนั้นมันมีแต่จะตีปีกบินป๋อเสียมากกว่า” คุณดิสรณ์พูดพร้อมสีหน้าผิดหวัง ก็เพราะเจ้าตัวดีนี่มิใช่หรือ เป็นฝ่ายเสนอให้เขาบากหน้ามาที่นี่ เพียงเพราะต้องการปัดความรับผิดชอบ มือบางบนตักกำเข้าหากันอย่างเผลอตัว หญิงสาวหลับตาพร้อมสูดเอาอากาศเย็นชืดเข้าไว้ในทรวงอกแปลบปลาบ คุณดิสรณ์พูดไม่ผิดหรอก กษิรามีแต่จะปัดความรับผิดชอบทั้งหมด เขาโวยวายขึ้นหลังจากคุณรุจีลุกออกจากตรงนั้นพร้อมเดินกลับขึ้นชั้นบน ปิดกั้นการรับรู้ถึงปัญหาภายในครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคู่ชีวิตจัดการสะสางปัญหาทั้งหมดก่อนจะถึงวันสำคัญ... --------------------------------------- คำโปรย... “ปิดประตูแล้วมานั่งลงตรงนี้หน่อย” หลังจากกษิรากระแทกก้นนั่งบนโซฟาตัวยาว เขาก็จัดแจงกวักมือเรียกให้นวลเนื้อหอมเดินตามเข้ามาหา นัยน์ตาทรงเสน่ห์อ่อนเชื่อม หรี่มองร่างกลมกลึงตรงหน้าด้วยอารมณ์รุ่มร้อน คนถูกเรียกให้เดินตามเข้ามาตัวสั่นน้อยๆ นวลเนื้อหอมเข้าใจได้ทันที เจ้านายหนุ่มต้องการสิ่งใด “แต่วันนี้นวลยังไม่พร้อม...” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล่อมแกล้ม พยายามข่มความกลัวไม่ให้มันแตกกระเจิง หรุบเปลือกตามองเพียงพื้นกระเบื้องห้อง ด้านหนึ่งถูกปูด้วยพรมสีขาวสะอาดตา เธอจะบอกเขาได้อย่างไรเล่าว่ากลีบสาวของเธอยังไม่หายบวมช้ำ กว่าเมื่อคืนเขาจะยอมปล่อยให้เธอกลับลงมานอนพัก เธอก็ถูกเขาจับกระแทกจนกลีบทั้งสองแคลมบวมช้ำ ขนาดตอนเดิน เธอยังรู้สึกหน่วงเดินขัดๆอยู่เลยนี่นา “ทำไม?” เสียงห้าวตวาดถาม จนนวลเนื้อหอมสะดุ้งตกใจ กลืนคำพูดต่อมาได้อย่างอัตโนมัติ... คราวนี้กษิราไม่นั่งเฉย เขารีบลุกพรวดขึ้นยืนข่มร่างน้อยเอาไว้ราวกับปีศาจ เคล้นคำสั่งรอดไรฟัน เขาไม่ต้องการให้นวลเนื้อหอมขัดใจ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการฟัง ถอดเสื้อผ้าแล้วมาจัดการธุระสำคัญของฉันให้เสร็จ” --------------------------------------------------
Updated at
Reads
เรื่องนี้มีแต่ ความเร่าร้อน ตัณหา ราคะ ของเจ้าป่าหนุ่มที่ชื่อ อามันต์ ... (นิยายจบในตอน จัดเต็มความแซ่บทุุกตอน) จะแยกออกเป็นตอนๆ แล้วจบในตอน ตัวละครดำเนินเรื่องเพียงคนเดียวคือ อามันต์ แล้วจะมีบรรดาสาวงามมาคอยเพิ่มความแซ๋บ
Updated at
Reads
(คำโปรย) “คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับดิฉันก็พูดมาสิคะ มัวแต่ทำรุ่มร่ามอยู่นั่น แล้วเมื่อไหร่จะคุยกันรู้เรื่อง...” พูดแล้วจึงดันร่างเล็กกว่าถอยห่างออกจากอ้อมแขน หากแต่คนตัวใหญ่กลับรั้งมากอดไว้แนบแน่นกว่าเก่า “ผัวอยากจะชื่นใจเมีย มันรุ่มร่ามตรงไหนหึ...” “คุณเหม!...” ร่างน้อยผละห่างพร้อมช้อนสายตาจ้องมองเจ้าของตักอย่างฉงนในคำพูดของเขา ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยเรียกแทนตัวเองว่าผัวแล้วเรียกแทนเธอว่าเมีย ขนาดตอนร่วมรักกันเขายังไม่เคยหลุดปากพูดให้ได้ยินด้วยซ้ำ จะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไง “ทำไม...หรือฉันพูดอะไรผิด ทำไมต้องทำหน้าเหมือนอย่างกับเห็นผีด้วยเล่า” “ก็คุณไม่เคยเรียกแทนตัวเองแบบนี้ แล้วอีกอย่างมันก็ไม่สมควร คุณเองก็รู้ว่าเพราะอะไร”
Updated at
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.