::เรื่องย่อ:: บุตรีของเสนาบดีกรมโยธาธิการคนใดจะถูกท่านอ๋องน้อย ‘เว่ยฉืออวี่หยาง’ หมั้นหมาย คนทั่วทั้งเมืองหลวงก็สุดจะรู้ ทว่านาง ‘เซียวม่านหลิว’ หาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองได้อย่างทันท่วงทีแล้ว นางปลอมตัวเป็นบุรุษปะปนไปกลับขบวนพ่อค้าเพื่อออกจากเมืองหลวง มิคาดว่าขบวนพ่อค้ากลับมุ่งหน้าไปยังทิศทางของสุสานหลวง กลายเป็นขบวนโจรขุดสุสานไปเสียนี่ ลักลอบขุดสุสานมีโทษประหารเจ็ดชั่วโคตร นางรับผิดชอบไม่ไหวแน่ แต่คนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต จู่ๆ นางก็ตกลงไปในสุสานของเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่ง โลหิตเป็นสื่อนำ พลังอำนาจลึกลับกลับชักจูงให้นางไม่อาจหลบหนี กลายเป็นการปลุกให้ใครบางคนตื่นขึ้นมา ทั้งยังตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าหล่อเหลาเหลือร้าย และน่ากลัวอย่างยิ่ง “เว่ยฉือหลี่หมิง คือชื่อของข้า” “ท่านแซ่เว่ยฉือ มิใช่เป็นเชื้อพระวงศ์หรอกหรือ?” “นั่นย่อมใช่แน่นอน” ครั้นได้ยินคำตอบของเขา ขนลุกชูชันไปทั้งกาย จักรพรรดิพระองค์ก่อนมีพระนามเดิมว่า…เว่ยฉือเทียนหลาง สวรรค์! ศพมีชีวิตผู้นี้ถึงกับแก่กว่านางสามรุ่น เขาถือเป็นปู่ทวดของเว่ยฉืออวี่หยาง นี่นางหนีเสือปะจระเข้เช่นนั้นหรือ!?
ซูซือเหยียนวางแผนไว้ว่าเมื่อถึงวันครบรอบ 1 ปีจะมอบกายให้แฟนหนุ่มสุดเพอร์เฟกต์ กลับคิดไม่ถึงว่าการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้จะทำให้เธอได้เห็น คนรัก กับ เพื่อนรัก กำลังมีอะไรกัน วันเดียวกันนั้นเธอได้พบกับหลี่เฉิงหลิน รุ่นพี่ที่เคยสารภาพกับรักเธอตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่เพราะความโง่ของเธอและความฮ็อตของเขา ทำให้ซูซือเหยียนคิดว่าตัวเองกำลังถูกหลอก หลายปีหลังจากเหตุการณ์นั้นเธอเลือกเว่ยเสวี่ยหลินคนทรยศ ทว่า ณ ตอนนี้หลี่เฉิงหลินกลับยื่นข้อเสนอเป็นเครื่องมือให้เธอใช้แก้แค้นแฟนเก่า เพื่อแลกกับการเป็น...ผู้หญิงของเขา
ทุกปีในมหาวิทยาลัย C จะมีประเพณีขึ้นดอย ซึ่งนั่นเป็นกิจกรรมรับน้องที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับสาวโสดที่กำลังหมายตาหนุ่มหล่อต่างคณะ โดยเฉพาะหนุ่มวิศวะ การเข้าร่วมประเพณีขึ้นดอยนี้อาจทำให้ใครบางคนได้รับผ้าคาด SOTUS และนั่นอาจทำให้พวกเธอกลายเป็นที่น่าอิจฉาภายในวันเดียว “หมี่ขาว” สาววิศวะที่โสดขึ้นดอยเป็นปีที่สาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนนั้น แต่ทว่าเพราะคำท้าที่รับปากเพื่อนด้วยความคึกคะนอง ทำให้เธอตกปากรับคำชวนของ “เก้าอี้” ตัวละครลับของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งวันนี้เขากลายเป็นพี่ปีสี่ ผูดผ้าคาด SOTUS สีแดง และวิ่งถือธงเกียร์นำขึ้นดอย เพียงเพราะเขาเดินมาทักและชวนเธอด้วยถ้อยคำเรียบง่าย “ขึ้นดอยด้วยกันมั้ยครับ”
คนหนึ่งพยายามทดสอบทุกครั้งเวลาเมา อยากรู้ว่าหัวใจของผู้หญิงคนหนึ่งจะหวั่นไหวกับเพื่อนสนิทคนนี้ไหม แต่สุดท้ายเมื่อตื่นขึ้นมา ทั้งเขาและเธอก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่กล้าทำร้ายความรู้สึกและบังคับเธอ ส่วนเธอพยายามทำตัวเหินห่างเพราะกลัวว่าจะเผลอใจไปมากกว่านี้ แต่สุดท้ายเพราะความเมาก็ทำให้เธอเผลอใจไปกับเขาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ได้หยุดแค่จูบ... เพื่อนสนิท แค่นิยามของมันก็ทำให้คนไม่มีสิทธิ์จะคิดเกินกว่านี้ เพราะถ้าหากเริ่มข้ามเส้นคำนี้เมื่อไร มันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ว่าจะสถานะระหว่างกัน หรือในสายตาของสังคม ความฝันที่เกิดขึ้นในโลกอีกใบหนึ่งทำให้เขา...ตัดสินใจล้ำเส้นเพื่อนสนิท ในโลกใบนั้น มีความลับที่คนทั้งคู่ไม่เคยเปิดเผยระหว่างกัน แม้ว่าในจะมีความสัมพันธ์เกินเลยกันไปแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ทำให้ความเป็นเพื่อนสิ้นสุดลงและกลายเป็นเพียงคนแปลกหน้า ทว่ากลับมาครั้งนี้เขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นอีกแล้ว เกียร์ทองที่สาวๆ อยากได้นักหนา ในสายตาของเขาไม่มีใครคู่ควรกับมันไปมากกว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายคนนี้ แต่เธอดันเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเองด้วยซ้ำนี่สิ
กับคนบางคน… ความฝันไม่ได้เต็มไปด้วยสิ่งสวยงามเสมอไป นางฝันถึงเหตุการณ์บางอย่างซ้ำๆ ตั้งแต่จำความได้ ความเย็นเยียบ… ความอึดอัด… ความสิ้นหวัง… เงาสลัวของใครคนหนึ่งที่พยายามเอื้อมมือมาหา... เสียงเรียกที่ได้ยินซ้ำๆ ‘ลู่…’ หนึ่งสตรี… ผู้ครอบครองหยกสีชาด ออกเดินทางเพื่อตามหาชาติกำเนิด ท่าทางสดใสร่าเริงเป็นเพียงฉากหน้า เบื้องหลังกลับเป็นความโดดเดี่ยวอย่างหาที่สุดมิได้ ครอบครัว เพื่อนพ้อง ล้วนเป็นเพียงสิ่งที่เกินเอื้อม หนึ่งบุรุษ… องค์ชายสิบสามผู้ถูกกล่าวหาว่าดวงชะตาของเขามีผลต่อบ้านเมือง โดดเดี่ยว เย็นชา เพื่อหนีการแต่งงานกับสตรีในคำทำนายจึงต้องดึงสตรีนางหนึ่งเข้ามาถ่วงเวลา เฒ่าจันทรามิได้หน่ายความรักหนุ่มสาว “โชคชะตา” อาจเป็นแค่การกล่าวอ้างของคนที่ไม่รู้ว่าเรื่องราวกำลังถูกบังคับให้ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ
เขาเข้ามาในเกี้ยวเจ้าสาว ยื่นข้อเสนอให้นาง ไปกับเขา...รอเจ้าบ่าว...หรือตาย หลังจากนั้นดวงตาของนางก็มืดบอด ทุกราตรีล้วนผ่านไปด้วยสัมผัสอันเร่าร้อน กระทั่งนางตาย...แม้แต่นามของเขา...ก็ยังไม่รู้ จักรพรรดิพระราชทานสมรสระหว่างวังชิงเฉินและจวนตระกูลจ้าว กลายเป็นข่าวที่น่ายินดีของคนทั้งต้าเฟิง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่รออยู่จะกลายเป็นงานแต่งสีเลือด เมื่อท่านปู่มอบแหวนคู่วงหนึ่งให้นางพร้อมทั้งบอกว่าเป็นสมบัติประจำตระกูล วิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้จ้าวเซียงอิ๋นต้องเลือกระหว่างชีวิตของนางกับครอบครัว
"ทิวา" ถูกพ่อแม่เลี้ยงให้อยู่ในกรอบมาตั้งแต่เกิด เป็นนกน้อยในกรงทองที่ถูกประคบประหงมอย่างดี เมื่อเริ่มเข้าสู่มหาวิทยาลัยเธอจึงสบโอกาสหนีออกมาอยู่คนเดียว แต่ใครจะคิดว่าเพราะความ ‘หิว’ เป็นเหตุ จนทำเธอถูกใครบางคนฉุดตัวไป เมื่อตื่นมาตอนเช้าพร้อมกับสภาพไม่เรียบร้อยในห้องของใครบางคน กลิ่นเหมือนไม้หอมโบราณและร่องรอยบนตัว ทำให้คิดว่าความบริสุทธิ์ที่เก็บไว้มา 18 ปี ได้หายไป เพราะทำอะไรไม่ถูกเธอจึงวิ่งหนีออกไปโดยไม่ทันสังเกตโน้ตที่เขาทิ้งไว้ กระทั่งวันหนึ่งเมื่อทิวาทำสมุดเชียร์หายจนต้องถูกส่งไปยัง ‘ห้องมืด’ เธอจึงได้พบกับเจ้าของกลิ่นไม้โบราณคนนั้นอีกครั้ง ทิวาต้องพบกับความจริงที่น่าตกใจ เพราะเขาไม่ได้พรากความบริสุทธิ์ของเธอไป แต่เป็นอิสรภาพ...
สองปีก่อน เพราะอกหักอย่างหนักจนอยากประชดชีวิต “ตะวันฉาย” ย่ามใจว่าตัวเองคอแข็ง จึงซัดหมาใจดำจนเมาแอ๋ แถมยังมอม “ต่อ” ผู้ชายที่เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็นจนน็อคคาวงเหล้า แต่ใครจะไปรู้ว่าหลังจากนั้น ‘คู่กัด’ จะกลายเป็น ‘คู่นอน’ ข้ามคืน สองปีต่อมา คืนก่อนวันขึ้นดอย เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ในตอนเช้า ตะวันฉายก็แผ่นแน่บพร้อมกับทิ้งเงินปึกหนึ่งไว้ให้เป็นค่าขนม เสือผู้หญิงอย่างต่อถูกหยามหน้าด้วยเงินปึกใหญ่ ทั้งสองเหมือนเส้นขนานที่ไม่สามารถมาบรรจบกันได้ เพราะเธอและเขาต่างก็หมดศรัทธากับความรัก ชาตินี้เธอขอเป็นติ่งจนแก่ตาย มีเงินใช้ซื้อผู้ชายแก้เหงา ส่วนเขาล่องลอยไปมา ชาติหน้าชาติไหนก็ไม่ขอคบกับใครจริงจัง จนกระทั่งพ่อของตะวันฉายจับมือกับคู่อริที่เคยต่อยตีกันมาสมัยหนุ่มๆ จับลูกสาวสุดที่รักหมั้นหมายกับลูกชายของพ่อเลี้ยงเชียงราย
เทพเซียนอายุสามหมื่นปีถึงจะมีชื่อคู่บุพเพขึ้นในศิลาสวรรค์ นับประสาอะไรกับเทพมังกรฟ้าที่อายุนับสิบหมื่นปีองค์นี้ เขาหลับไปนานนับสิบหมื่นปีเพื่อหวังว่าคู่ครองบนศิลาสวรรค์จะหายไป หวนคืนสู่จุดกำเนิดดังเช่นเทพบรรพกาลหลายองค์ที่ดับสูญไปหลังจากสงครามเทพมารสงบลงและสร้างเสาค้ำยันสวรรค์เสร็จสิ้น เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเทพมังกรฟ้าจึงรีบไปที่ศิลาสวรรค์เพื่อตรวจสอบดูว่าชื่อของนางหายไปหรือไม่ ชื่อของนางหายไป ทว่ากลับกลายเป็นชื่อของใครอีกคน เขา...ย่อมใจหายและรู้สึกวูบโหวงอย่างประหลาด จนกระทั่งได้พบกับหลานสาวของเทียนจวินองค์ปัจจุบัน ชื่อของนาง...ขนของนาง ช่างเหมือนกับสตรีจอมเกียจคร้านนั้นไม่ผิดเพี้ยน หรือว่าดวงจิตของสตรีนางนั้นมาจุติใหม่กันแน่? เทพมังกรฟ้าจึงตัดสินใจสร้างบุพเพใหม่ หวังเปลี่ยนชื่อในศิลาสวรรค์ให้กลับมาเป็นชื่อเดิมของนาง เทียนจวินจึงส่งหลานสาวตนไปจุติในภพมนุษย์เพื่อช่วยให้นางกับเขาสมหวังในรัก
เมื่อโลกมาถึงยุคที่มีมนุษย์กลายพันธุ์มากกว่าคนปกติ โลกเริ่มยอมรับการมีอยู่ของผู้มีพลังพิเศษและเกิดการควบคุมผู้มีความสามารถ 'มีอา' หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดามาโดยตลอด ดันเผลอมีใจให้กับนักสู้อันดับหนึ่งของ Front League แฟนหนุ่มทางออนไลน์ของเธอเองอย่าง 'เกียร์' แฟน...ผู้ไม่เคยพบเจอหน้ากันเลยสักครั้ง เขาถูกเธอดึงดูดด้วยกลิ่นหอมจากวิญญาณของเธอ ในขณะเดียวกัน เธอที่พึ่งพาตัวเองจนเคยชินกลับหลงใหลในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา มีอาจึงตัดสินใจทำสัญญากับซาตานเจ้าของเทียบเชิญแห่งความตาย ปรารถนาจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของเกียร์ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความปรารถนานั้นมันคือการผูกมัดเธอกับเขาไปตลอดชีวิต เธอถูกความเร่าร้อนของเขาแผดเผาจนหลงใหล ขณะเดียวกันเขาก็ตกเป็นทาสรักของเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น เรื่องราวความลับในอดีตของทั้งคู่ค่อยๆ เปิดเผยขึ้นทีละนิด ขณะเดียวกันปมปริศนาในชีวิตก่อนหน้าก็ปรากฏขึ้น
พบกันครั้งแรก เธอบอกตัวเองว่าบังเอิญ พบกันครั้งที่สอง เธอบอกตัวเองว่าโลกกลม พบกันครั้งที่สาม เธอก็ยังไม่เชื่อพรหมลิขิต กระทั่งพบกันครั้งที่สี่ กลายเป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อยเธอไป อิราเท้าแขนไว้ข้างตัวเธอ แกล้งตีหน้าขรึม “เมื่อกี้เขาไม่เรียกว่าจูบนะครับ” ปากแตะปาก ก็จูบแล้วไง เธียรธารามั่นใจว่าการดูซีรีส์มาเป็นร้อยเรื่องไม่เคยเสียเปล่า “เอ่อ พี่อินอย่าขี้ตู่เลยค่ะ เทียนรู้ทันหรอก” เธียรธารากระเถิบถอยหลัง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งถอยเขาก็ยิ่งรุกคืบเข้ามา แค่เห็นหน้าใกล้ๆ ก็ใจสั่นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว พอตอนนี้มาทำหน้านิ่งๆ สายตาหื่นๆ ใส่อีก สติที่มีเพียงน้อยนิดของเธียรธาราก็แทบจะกระเจิงไปไหนต่อไหนไม่รู้แล้ว แทนที่จะกลัวแล้ววิ่งหนี กลายเป็นว่าพอลมหายใจอุ่นร้อนของอิรารินรดผิวหน้า เธียรธารากลับเอาความใจกล้าบ้าซีรีส์โรมานซ์มาจากไหนไม่รู้ เป็นฝ่ายโน้มขอเขาแล้วประทับริมฝีปากเขาแทบจะทันที อิราตัวแข็งทื่อ ถูกคนอ่อนประสบการณ์จริงแต่เชี่ยวชาญทฤษฎีสอนวิธีจูบโดยการเอาปากแนบปากแบบนี้ทั้งขำทั้งทำตัวไม่ถูก รอจนเธียรธาราถอนริมฝีปาก ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอของเขาถึงแดงเป็นลูกตำลึงสุก มองดวงตาเยิ้มๆ ของเธอแล้วอดมันเขี้ยวไม่ได้ “เห็นไหม นี่ไงจูบ” อิรากลั้นยิ้ม มองดูคนใจกล้าบ้าบิ่นตรงหน้า เขาหยิบแว่นเธอออก สบดวงตาสีน้ำตาลหวาน มองปลายจมูกรั้น มองกลีบปากบาง “เทียนเรียกมันว่าจูบเหรอ” หญิงสาวประหม่าจนพูดไม่ออก ตกใจตัวเองจนลืมเสียงไปแล้ว นิ้วเรียวเชยคางมนให้เชิดขึ้น กลิ่นหอมจากตัวเธอทำให้เขาใจสั่น อิราโน้มใบหน้าเข้าใกล้ คิดว่าอาจโดนเธอปฏิเสธ หากแต่ดวงตาสีน้ำตาลของเธอกลับมีเพียงความหวั่นไหว มือข้างหนึ่งโอบเอวเล็กเข้าใกล้ กระซิบเสียงพร่า “พี่จะสอนเทียนเอง”
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.