เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของคลับกับเด็กเชียร์เบียร์ ไพลินไม่เคยลืมว่าอังค์กูณฑ์คนนี้เคยทำเธอเจ็บแสบขนาดไหน ในเมื่อเขาจำเธอไม่ได้ เธอจะทำให้เขาเรียนรู้บ้างว่าการถูกเขี่ยทิ้งมันรู้สึกยังไง อังค์กูณฑ์ตั้งใจจะจีบไพลินเล่น ๆ ควงแขนชั่วครั้งชั่วคราว แต่คืนนั้นคืนเดียวกลับกลายเป็นเขาที่หลงรักเธอจนหัวปักหัวปำ
ปึก! “อื้อเจ็บ!!” “อ้าขาออก” ผมออกคำสั่งกับเธอเสียงนิ่ง ๆ เพราะน้ำผึ้งหุบขาตัวเองไว้ ทำให้ผมขยับเอวเข้าออกลำบาก น้ำผึ้งเอาแต่ส่ายหน้าไปมารัว ๆ การที่เธอไม่พยายามเรียนรู้ท่าใหม่ ๆ มันทำให้ผมหงุดหงิด ผมจึงดันร่างของเธอให้นอนลงแล้วจับแยกสองขาอ้าออกกว้าง ๆ ก่อนจะเริ่มขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกร่องรัก จนเธอเริ่มปรับตัวได้ ผมจึงอุ้มให้เธอขึ้นมานั่งบนตักของผมอีกครั้ง “ขย่ม” น้ำผึ้งเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมจึงค่อย ๆ อธิบายเพื่อให้เธอทำตาม “หมุนเอวก่อน แล้วยกสะโพกกระดกขึ้นลงซ้ำ ๆ ถ้าหนูไม่ทำป๋าจะกระแทกตรงนั้นให้ระบมเลย
ฉันหลุดเข้ามาในนิยายน้ำเน่า พระเอกเลวและหูเบา นางเอกโง่เง่าและอ่อนแอจนน่ารำคาญ เริ่มเรื่องว่าน่าหงุดหงิดแล้ว ตอนจบยิ่งห่วยแตกไปกันใหญ่ เอาล่ะ ฉันจะเปลี่ยนนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้ให้เป็นนิยายน้ำดี! แนะนำตัวละคร บดินทร์/เฮียดิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ทายาทคนโตของตระกูลภิรมย์ภัทร สุขุมลุ่มลึก ภายใต้ใบหน้าฟ้าประทานซ่อนความอันตรายไว้กรุ่นๆ เกลียดการถูกบังคับ ยิ่งถูกบังคับก็จะยิ่งต่อต้าน “เธอมันก็แค่แม่พันธุ์ไว้ผลิตลูกผลิตหลานให้ตระกูลของฉันเท่านั้นเองหนูดี” ดีน่า นักเขียนสาววัย 25 ปี นามปากกา ไดอาน่า เน้นเขียนแต่พล็อตที่ขายได้ เนื้อหาไม่โดนใจแต่ยอดขายสุดปัง นิยายเรื่องล่าสุดที่จบโคตรห่วย โดนนักอ่านด่าสาปไปสามชาติเจ็ดชาติ แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้แหละที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า “ตราบใดที่นิยายน้ำเน่ายังขายดี ดีน่าก็จะเขียนพล็อตนี้จนสิ้นชีพ” ดารากา/หนูดี เด็กกำพร้าที่ตระกูลภิรมย์ภัทรรับมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะ เธอได้รับการอบรมสั่งสอนให้เป็นแม่บ้านแม่เรือนและถูกปลูกฝั่งให้รักบดินทร์ตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย เพื่อโตมาจะได้เป็นเจ้าสาวที่เพียบพร้อมของบดินทร์โดยเฉพาะ “บางครั้งหนูดีก็ไม่ได้อยากรักเฮียดิน แต่ไม่รู้ทำไม ฮึก! เหมือนถูกสาปให้รักเลย” เขา...คือผู้ชายที่แสนใจร้ายและเย็นชา เธอ...คือหญิงสาวที่รักเพียงแต่เขาจนหมดหัวใจ
“เฮียมันซาดิสม์ หนูขอลาออกจากการเป็นเมีย!”“อะไร?” “หนูไม่อยากเป็นเมียเฮียแล้ว เฮียชอบใช้ความรุนแรงบนเตียง ตัวหนูมีแต่รอยน่าเกลียดเต็มไปหมด”รอยน่าเกลียด? อะไรคือรอยน่าเกลียด?นั่นคือร่องรอยที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของต่างหาก“เป็นเมียเฮียดี ๆ ไม่ชอบ อยากจะเป็นคนใช้ไหมเดี๋ยวสงเคราะห์ให้”“งั้นหนูของานที่ได้อยู่ใกล้กับพวกพี่บอดี้การ์ดนะคะ เวลาเห็นกล้ามใหญ่ ๆ จะได้มีกำลังใจทำงาน”หืม...มีกำลังใจในการทำงานอย่างนั้นเหรอ?ดูหน้าเธอตอนพูดถึง 'กล้ามใหญ่ ๆ' ของเหล่าบอดี้การ์ดในบ้านสิ ยิ้มระรื่นเชียว~“เป็นแค่คนใช้มีสิทธิ์เลือกงานด้วยเหรอ?” เขาเอียงคอถามเล็กน้อย แต่ไม่ได้รอฟังคำตอบ “อย่างดื้อต้อง...โน้น...ไปขัดส้วม!”“เฮีย!” มันจะมากเกินไปแล้ว เธอไม่ยอมหรอก งานนี้เป็นไงเป็นกัน“แล้วบัตรเครดิต คีย์การ์ดห้อง กุญแจรถ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าแบรนด์เนม คืนเฮียมาให้หมด!”เหอะ! คิดจะทวงของที่เคยเปย์ให้คืนทั้งหมดเหรอ?คนอย่างเธอหรือจะยอม!ดารินทร์เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปนั่งบนตักแกร่ง ตวัดสองแขนเรียวโอบรัดลำคอหนาพลางกะพริบตาปริบ ๆ“เฮียขา...”
ปัง!! กรี๊ดดดดด!! พรึ่บ! ชายวัยสี่สิบปลายๆ ล้มลงไปกับพื้นจมกองเลือดทันทีที่ลูกตะกั่วฝังเข้าที่บริเวณกลางกะโหลกศีรษะ ความเหี้ยมโหดของเขาทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักออกอาการขวัญเสีย เธอกรีดร้องเสียงดังลั่นด้วยความหวาดกลัว “นี่คือลูกหนี้ที่ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสมากกว่าสองครั้ง แล้วมันยังกล้าคิดที่จะหนี...” ปรินทร์หันมาพูดกับเด็กสาวที่นั่งสั่นเทาอยู่บนตักของเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน การกระทำของเขาราวกับเชือดไก่ให้ลิงดู “...เธออยากมีจุดจบแบบนั้นไหม?”
“เรติกา อ๊าส์” น่ารังเกียจ! น่าขยะแขยงที่สุดเลย “ใครอนุญาตให้แกครางชื่อฉัน ไอ้ชั่ว!” เธอพยายามประคองเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ความรุนแรงที่เขามอบให้นั้นไม่สามารถทำให้คนถูกกระทำอย่างเธอส่งเสียงร้องครวญครางออกมา แม้แต่น้ำตาแค่หยดเดียวเขาก็ไม่สามารถรีดมันออกมาจากดวงตาของเธอได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเองก็เจ็บปวดทรมานแทบขาดใจ เหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “หึหึ” มันส่งเสียงหัวเราะในลำคอเย้ยหยันเธออีกแล้ว โคตรเกลียดมันเลย “ถ้าเธอส่งเสียงร้องครวญครางออกมาบ้าง ฉันอาจเมตตาเธอก็ได้นะ”
“เมื่อคืนเราสองคนแบบว่า...” คาริสาทำท่าทางเขินอาย ขณะที่แดเนียลเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี “นายครางเรียกฉันว่าเมียจ๋า...” “ไม่มีทาง! ฉันไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น” ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงพูดของคาริสา แดเนียลก็รีบปฏิเสธแทรกขึ้นมาทันควัน “เมียจ๋า..เมียจ๋า...” คาริสายังคงสนุกกับการที่ได้กลั่นแกล้งแดเนียล ใครจะไปคิดว่าแค่อุบายป้องกันตัวเอง จะทำให้เธอทั้งสนุกและสะใจได้ขนาดนี้ “นี่นะเหรอผู้หญิงที่คุณย่าบอกว่าดีนักดีหนา ที่แท้เธอมันก็นางร้ายสวมหน้ากากเป็นคนดีนี่เอง” “ผัวก็ดูถูกเมียเกินไป เมียไม่ได้ร้ายถึงขนาดนั้นซะหน่อย แต่ว่าเมียน่ะ ร้ายยิ่งกว่านั้นหลายเท่า” คาริสาพูดพลางทำท่าจะย่องเข้าไปหา แต่แดเนียลรีบก้าวขาถอยห่าง ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวกว่าที่เขาคิด “ผัวขามาใส่เสื้อให้เมียหน่อย” “อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะยัยโรคจิต”
“แด๊ดดี้~ หนูนามีเรื่องจะถามแด๊ดดี้ค่ะ” “ว่าไงคะคนเก่ง” คามินก้มหน้าลงมาเอ่ยถามเมียตัวน้อยที่แสดงท่าทางออดอ้อนเขาจนผิดสังเกต มือหนาลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ “หนูนาอยากเห็นรอยยิ้มของแด๊ดดี้เลยหยิบกระจกที่แด๊ดดี้เคยให้ไว้มาเปิดดู แต่ว่ามองยังไงก็ไม่เห็นรอยยิ้มของแด๊ดดี้เลยค่ะ ทำยังไงดีคะ?” เด็กสาวเปิดกระจกพับขนาดเล็กที่พกติดมือมาส่องใบหน้าของคามินก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมาส่องใบหน้าของตัวเองช้าๆ “มองไม่เห็นจริงๆ นะคะ” ฟอดดดดด~ คามินกดปลายจมูกโด่งฝังเข้าที่พวงแก้มของคนตัวเล็กหนักๆ ไปหนึ่งฟอด ทำเอาหนูนาเผลออมยิ้มบางๆ ที่มุมปาก หากว่าเมื่อสักครู่เธอได้เห็นคามินหอมแก้มเธอผ่านกระจกด้วย พวงแก้มที่เคยขาวผ่องค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “เห็นหรือยังคะ”
เกริ่นนำ... หึ~ รู้นะว่าเฮียกำลังมองดีแลนด์อยู่ เขาว่ากันว่าการอ่อยที่ได้ผลที่สุดคือการไม่อ่อย ดีแลนด์คลี่ยิ้มหวานเพื่อดึงเสน่ห์ของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด เธอทำท่าทีทอดสายตามองพลาสเตอร์ลายการ์ตูนที่ปกปิดนิ้วมือเสมือนไม่สนใจคนข้างๆ “แม่ดีแลนด์บอกว่าถ้าฝนไม่หยุดตกก็ให้เฮียค้างที่นี่กับดีแลนด์ได้เลย” ปกรณ์พูดหลังจากที่ได้รับข้อความจากคาริสาผู้เป็นแม่ของเด็กสาว ดีแลนด์หันมาพยักหน้าให้ปกรณ์เบาๆ เป็นเชิงรับรู้ “รู้แล้วทำไมยังเฉย” “อ่าว แล้วจะให้ดีแลนด์ทำอะไรล่ะคะ ให้ดีแลนด์ขึ้นไปนั่งบนตักเฮียเหรอ โอ๊ยเฮีย!” เธออุทานเสียงหลงเมื่อถูกนิ้วมือหนาดีดเข้าที่ตรงกลางหน้าผากอย่างจัง “อย่าปีนเกลียว! ไปเอาหมอนกับผ้าห่มมา..เฮียจะนอนตรงนี้” ปกรณ์เอ็ดเด็กสาวอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะสั่งให้เธอไปเอาสัมภาระเครื่องนอนมาให้ เขาสังเกตเห็นสีหน้าไม่ชอบใจของเธออย่างชัดเจน “ทำไมทำหน้าอย่างนั้น คิดว่าเฮียจะไปนอนในห้องกับดีแลนด์หรือไง” “แล้วได้ไหมคะ” “นี่เป็นผู้หญิงประเภทไหนว่ะ” ปกรณ์พูดพึมพำเสียงเบาหากว่าไม่ได้ตั้งใจพูดกับเธอในประโยคแรก ก่อนจะพูดกับเธออย่างจริงจังในประโยคถัดมา “ดีแลนด์อย่าลืมนะ ว่าดีแลนด์อยู่กับเฮียแค่สองคน” “แล้วยังไงคะ เฮียกรณ์ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย” ดีแลนด์พูดพึมพำพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อไปเอาหมอนกับผ้าห่มในห้องนอน แต่อยู่ๆ ก็มีสิ่งกีดขวางทำให้เธอสะดุดอีกครั้ง โดยที่ปกรณ์คว้ามือเด็กสาวไว้ได้ทัน ว้ายยยยยยย~ “สะดุดเก่งจังเลยนะ” ปกรณ์พูดกระแหนะกระแหนคนตัวเล็กพร้อมยกยิ้มที่มุมปากบางๆ “เฮียกรณ์นั่นแหละแกล้งดีแลนด์ เฮียเอาขามาขวางดีแลนด์” “ไหนหลักฐาน เฮียอุตส่าห์ช่วยดีแลนด์นะ” หากว่าใจเธอเต้น ตุปๆๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็นั่งอยู่บนตักของปกรณ์แล้ว จะลุกดีมั้ยนะ ไม่อยากลุกเลยอ่ะ อยากนั่งแบบนี้อีกสักสามชั่วโมง “อีกนานมั้ย” “อะไรคะ?” “จะนั่งแบบนี้อีกนานไหม เฮียหนักนะ” อุตส่าห์อยู่ท่านี้แล้วแท้ๆ ทำไมถึงไม่มีเลิฟซีนเลยอ่ะ
“ถ้าไม่อยากตายคาอกผัวเข้าสักวัน อย่าแม้แต่จะคิดถึงฉันอีก ฉันเตือนเธอได้แค่นี้” ทันทีที่เราสองคนได้อยู่ตามลำพัง ไบรอันก็พูดเปิดประเด็นก่อน คำพูดของเขามันตัดขาดความรักของฉันอย่างไร้เยื่อใย แล้วยังไง... ความรู้สึกมันห้ามได้เหรอ ฉันไม่ยอมหรอก ทำไมฉันจะต้องฝืนทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ “ทำไมโลกนี้ไม่เห็นยุติธรรมกับฉันเลย ถ้าจะทำให้ฉันรักนายไม่ได้ แล้วจะให้ฉันมาเจอกับนาย มาผูกพันกับนายทำไม” “แล้วคุณลีโอเขาผิดอะไร เธอเป็นของเขาน้ำผึ้ง เธอเป็นของเขาตั้งแต่แรก เธอ...กลับไปกับเขาเถอะ” “ฉันไม่ได้รักเขา ฉันรักนายนะไบรอัน ฮือ ๆ” ฉันรีบตะโกนออกไปทั้งน้ำตาในตอนที่ไบรอันหันหลังให้ฉัน เมื่อเห็นว่าเขาหยุดชะงักฉันก็วิ่งไปกอดเขาไว้จากด้านหลังทันที “พาฉันหนีไปจากเขาได้ไหม เราหนีไปด้วยกันนะ” “โอ๊ย! ผึ้งเจ็บนะคุณป๋า ปล่อย!” “แล้วป๋าไม่เจ็บหรือไง หนูจะหนีไปจากป๋าอย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ” คุณป๋ายอมปล่อยฉันลงจากบ่าแกร่งทันทีที่เดินมาถึงห้องนอน ฉันร้องไห้ตั้งแต่ห้องของไบรอันมาจนถึงเพนท์เฮาส์ของคุณป๋า จนตอนนี้ขอบตาของฉันมันบวมปูดจนน่าเกลียด “ผึ้งไม่หนีไปไหนแล้ว ช่วยปล่อยตัวไบรอันได้ไหม” “ก็อยู่ที่ว่าหนูจะทำตัวยังไง ยิ่งหนูทำให้หัวใจป๋าเจ็บมากเท่าไหร่ ป๋าก็จะทรมานให้มันเจ็บกว่าป๋าร้อยเท่าพันเท่า” “คุณป๋าจะทำไบรอัน อย่าทำอะไรเขาเลยนะผึ้งยอมแล้ว ผึ้งจะไม่หนีไปไหนผึ้งจะอยู่กับคุณป๋า ฮือ ๆ ” ฉันขอร้องพร้อมเดินเข้าไปกอดคุณป๋าเอาไว้ เผื่อว่าความโกรธในใจของเขาจะลดลงบ้าง ฉันเป็นห่วงไบรอัน ถ้าหากเขาเป็นอะไรไปมันคือความผิดของฉันทั้งหมด “อย่าคิดว่าหนูเป็นคนที่ป๋ารักมากแล้วหนูจะทำอะไรกับป๋าก็ได้นะ ป๋าเกลียดคนทรยศหักหลังที่สุด”
“ไปรอฉันที่เตียง อาบน้ำเสร็จแล้วฉันจะตามไป” “มะ...หมายความว่าไงคะ?” “ต้องการเงินไม่ใช่เหรอ? แก้ผ้าแล้วขึ้นไปนอนรอฉันบนเตียง!” “ข้อเสนอของคุณคือให้หนูนอนกับคุณเหรอคะ” “สิ่งที่ฉันพูดมันเข้าใจยากตรงไหน” ผมโน้มใบหน้าเข้าไปถามกุ๊กไก่ใกล้ ๆ ดวงตาคู่นั้นไม่ได้ปฏิเสธผม แต่เธอกำลังสับสนมากกว่า “เธอได้เงิน ฉันมีความสุข เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน สำหรับคืนนี้เธอต้องการเท่าไหร่เรียกมาได้เลยนะ ฉันจ่ายสด” “หนูขอคิดดูก่อนนะคะ” “นี่อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากได้ไหม” ผมหันไปพูดกับเธอด้วยความหงุดหงิด ผมไม่เคยดิวกับผู้หญิงคนไหนยุ่งยากขนาดนี้ แต่ทว่าเธอก็วิ่งหนีออกจากห้องผมไปแล้ว “ยัยลูกเจี๊ยบนี่!” “หนูตกลงค่ะ” ใบหน้าจิ้มลิ้มชโงกมาตอบผมด้วยรอยยิ้ม “แค่นี้ก็จบเรื่อง ไปนอนรอฉันบนเตียง”
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.