"ขอนะครับ รับรักผมหน่อย"-- "Please, Please Be Mine"
READING AGE 18+
ห้องทำงานชั้นบน ร้านกาแฟสำนักงานใหญ่ของภาคิน///
ก้อง (ผู้ช่วยส่วนตัว) เดินเข้ามาในห้อง พร้อมแฟ้มเอกสารบางอย่าง
ภาคินนั่งพิงเก้าอี้ มองออกไปที่หน้าต่าง สีหน้าครุ่นคิด
"คุณคิน...ช่วงนี้คุณดูแปลก ๆ นะครับ เหมือนมีอะไรในใจตลอด"
ภาคิน ถอนหายใจเบา ๆ
"ก้อง...ฉันอยากให้ช่วยอะไรสักอย่าง"
ก้อง เลิกคิ้ว
"แน่นอนครับ บอกมาได้เลย คุณอยากให้ผมตามหาคู่แข่งร้านกาแฟ หรือธุรกิจใหม่ของบริษัท?"
ภาคิน ส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ "ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ...แต่เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง"
ก้องพยักหน้า แต่ก็ถามอย่างเป็นห่วง
"ถ้าให้ผมสืบเรื่องส่วนตัวของเธอ...จะไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? "
"ฉันไม่ต้องการล่วงเกินชีวิตเธอ...แค่จะหาทางเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ในจังหวะที่เธอพร้อมจะเปิดใจ ไม่ใช่ยัดเยียด"
ก้องพยักหน้ารับ เข้าใจในน้ำเสียงหนักแน่นของเจ้านาย
/////ที่ผ่านมา ผมก้าวตามเธอ/////
วันที่ผมรู้ว่าพาฝันกำลังทำอะไรอยู่...ผมยอมรับเลยว่าผมประทับใจเธอมากกว่าเดิมหลายเท่า
ก้องเอาข้อมูลที่สืบมาให้ผม—
เธอได้ทุนเรียนปริญญาโทในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และไม่ใช่เพราะอยากมีชื่อเสียงหรือความหรูหรา แต่เพราะเธอมีความฝันชัดเจน
พาฝันอยากเป็นข้าราชการตุลาการ เหมือนคุณพ่อของเธอ
ตอนที่ผมอ่านประโยคสั้น ๆ นั้นในแฟ้ม ข้างในผมรู้สึกเหมือนถูกเขย่าแรง ๆ ..//><
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเก่งหรือความฉลาด
แต่เธอมี “หัวใจที่มั่นคง” กว่าคนทั่วไปมากนัก
คืนถัดมา ผมนั่งคุยกับพ่อที่ห้องทำงานใหญ่ของบ้าน
"พ่อครับ...ผมมีเรื่องอยากขอ"
พ่อ เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
"เรื่องอะไรล่ะคิน? ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจอสังหาฯ ตอนนี้พี่ชายลูกดูแลอยู่แล้ว"
ผม ส่ายหัว
"ไม่ใช่เรื่องอสังหาฯ ครับ...ผมอยากขยายธุรกิจร้านกาแฟของเรา ไปเปิดสาขาใหม่ในย่านมหาวิทยาลัยที่หนึ่ง ผมคิดว่าคงไปได้ดี"
พ่อเลิกคิ้ว
"มหาวิทยาลัย...? นี่ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ภาคิน
"ผมอยากเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจที่นั่นเหมือนกันครับ...แล้วก็อยากทำให้ร้านกาแฟของเราเป็นที่พักพิงของนักศึกษาที่มีความฝัน ไม่ใช่แค่สถานที่ขายกาแฟ"
พ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
"แต่ลูกก็จบปริญาตรีด้านธุรกิจต่างประเทศ จะมาเรียนในเมืองไทยอีกทำไม ?
พ่อถามด้วยความงุนงง
เพราะลูกชายทั้งสองถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบชั้นมัธยมต้น
"เอาสิ บางทีทางที่ลูกเลือก อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ"
"ขอบคุณครับพ่อ" ผมยิ้มทั้งนอกและในใจแทบปริ
ผมกลับไปที่สำนักงานในคืนนั้น ใจเต้นแรงกว่าที่เคย
—เพราะผมรู้แล้วว่าเส้นทางของผมต่อจากนี้...ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ
แต่คือการได้ “ก้าวไปอยู่ข้าง ๆ พาฝัน”
ในโลกที่เธอกำลังสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ
และผมก็สัญญากับตัวเองว่า..
ต่อให้เธอยังไม่พร้อมมองผมในฐานะคนพิเศษ
แต่ผมจะอยู่ตรงนั้นเสมอ อยู่ใกล้พอที่เธอจะเห็น
ว่ามีใครสักคนพร้อมจะเดินไปกับเธอ
-----
เสียงพลิกหน้ากระดาษแผ่วเบา
ดังสลับกับลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะของเขา
ทุกครั้งที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น
-—ในห้องสมุดที่แสนสงัด—-
มันเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นกรงขังที่บีบหัวใจให้แน่นขึ้นเรื่อย ๆ
เขารู้ตัวดีว่าเธอไม่เคยหันมามอง
รู้ดีว่าเธอมีคนในใจอยู่แล้ว…
ชายหนุ่มนักศึกษาป.โท ที่คอยเดินมาส่งเธอหลังเลิกเรียนเป็นประจำ
ภาพนั้นยังตามหลอกหลอนอยู่ในมุมความคิด แม้พยายามอ่านหนังสือเท่าไร ก็กลับอ่านไม่เคยเข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเลือกนั่งโต๊ะเดิม เวลาเดิม
เพียงเพื่อรอเธอเดินเข้ามา แม้จะได้แค่เฝ้ามองจากไกล ๆ ก็ตาม
//////หัวใจมันทรมานอย่างประหลาด///////
—เหมือนกำลังทำร้ายตัวเองทุกครั้งที่เห็นเธอหัวเราะกับใครคนนั้น
แต่เขาก็ไม่เคยหยุด ไม่เคยเลิกแอบหวังว่าซักวันหนึ่ง...เธออาจเหลือบมองมาที่เขาบ้าง
ทว่าลึก ๆ แล้ว เขาก็รู้ดีว่า..... ความหวังนั้นอาจไม่เคยเกิดขึ้นเลยตั้งแต่ต้น.
ไม่นาน เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังใกล้เข้ามา ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น…แล้วโลกทั้งใบก็หยุดหมุน
“เอ่อ…ขอโทษนะ”
เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้น เธอยืนอยู่ตรงหน้า ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเส้นผม
“พอดีว่า..เออ..ฉันลืมเอาปากกามา ถ้าจะรบกวนขอยืมใช้ของคุณหน่อยพอจะได้ไหมคะ?”
มือของเขาแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะ ก่อนจะรีบหยิบปากกาสีดำที่วางบนโต๊ะ ยื่นให้ทั้งที่ปลายนิ้วสั่นน้อย ๆ
“อ๋อ…ได้ครับ” เสียงเขาเบากว่าที่คิด ราวกับกลัวทำลายบรรยากาศเงียบสงบ
เธอยื่นมือมารับ นิ้วเรียวยาวสัมผัสกับมือเขาเพียงเสี้ยววินาที แต่กลับทิ้งร่องรอยร้อนวาบไว้ในหัวใจ
“ขอบคุณนะ” เธอยิ้มบาง ๆ
เพียงแค่นั้นเอง แต่สำหรับเขา มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงกว่าภาพใด ๆ ที่เคยเห็น
เขาเฝ้ามองเธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ รู้สึกเหมือนปากกาธรรมดาด้ามนั้นเพิ่งกลายเป็นของมีค่าที่สุดในโลก
///////////////////////
ภาคิน ลูกชายคนที่สองของบ้าน "กฤตยานนท์" ครอบครัวของผมมีชื่อเสียงพอสมควร
พ่อกับแม่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน มีเงินทอง มีชื่อเสียง มีคนรู้จักมากมาย
ผมมีพี่ชายหนึ่งคน เขาสมบูรณ์แบบในสายตาทุกคน เก่ง ฉลาด มุ่งมั่น และพร้อมจะสืบต่อกิจการ ผมจึงกลายเป็น "ลูกชายคนรอง" ที่ไม่ค่อยถูกคาดหวังมากนัก อาจเพราะแบบนั้น...ผมเลยมีโอกาสเลือกเส้นทางของตัวเอง
ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ผมชอบนั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟเล็ก ๆ ชอบบรรยากาศกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟยามเช้า ชอบความอบอุ่นเวลาคนเข้ามาแล้วได้นั่งพักผ่อน
-- จนสุดท้าย ผมตัดสินใจเปิดร้านของตัวเอง --
"ภาคิน...ลูกไม่จำเป็นต้องเหนื่อยหรอก ธุรกิจของบ้านเราก็มีพร้อมแล้ว"
ชายผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ลูกชายคนอื่น ๆ เขามุ่งไปข้างหน้า ทำไมลูกต้องเลือกเปิดร้านเล็ก ๆ แบบนี้?" แม่คัดค้าน
ผมตอบพวกท่านไปด้วยรอยยิ้ม
"บางครั้ง ความสุขมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเราจะยิ่งใหญ่แค่ไหน...แต่อยู่ที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักจริง ๆ"
ผมคิดว่า ความถ่อมตัวไม่ใช่การทำตัวต่ำต้อย
แต่มันคือการไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร และใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจริง ๆ
และบางที...โชคชะตาก็อาจกำลังใช้ร้านกาแฟเล็ก ๆ นี้ เป็นสะพานพาผมไปพบใครบางคน ที่สำคัญกว่าทุกธุรกิจใหญ่โตในโลกใบนี้ก็เป็นได้
Unfold
บทส่งท้ายจากนักเขียน
...
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวความรักของ ภาคินและพาฝัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงบทสุดท้าย
...
ทุกอุปสรรค ทุกน้ำตา และทุกรอยยิ้ม
ที่ทั้งสองคนก้าวผ่านไปด้วยกัน
หากไม่มีผู้อ่านคอยติดตามและเป็นกำลังใจ
เรื่องนี้คงไม่อิ่มเอมและสมบูรณ์ได้ถึงเพียงนี้
...
นัก……
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.
Waiting for the first comment……